ในยุคที่ความสวยมาพร้อมกับความรู้ คำว่า ‘คอลลาเจนดรอป’ กำลังมาแรงสุดๆ โดยเฉพาะในหมู่คนรักสุขภาพและสายบิวตี้ที่ใส่ใจในเรื่อง วิตามินผิว และการดูแลตัวเองแบบครบสูตร ถ้าย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน อาหารเสริมคอลลาเจนยังมาในรูปแบบเม็ด ผง หรือแคปซูล แต่เดี๋ยวนี้รูปแบบลิควิดหรือ ‘Collagen Liquid’ กำลังแย่งซีนด้วยความเข้มข้น ดูดซึมง่าย แถมรสชาติก็ไม่เหมือนกินยาอีกต่อไป ใครยังไม่รู้ว่า Collagen Liquid แบบดรอปเข้มข้นมันดียังไง กินยังไงให้ได้ผลจริง บทความนี้สรุปมาให้แบบครบ จบในบล็อกเดียว คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายผลิตเองได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตก็ลดลง ทำให้เกิดริ้วรอย ผิวแห้ง ผมร่วง และปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อ ซึ่งการกิน คอลลาเจนดรอป เป็นวิธีเสริมจากภายนอกที่ช่วยได้มาก โดยแหล่งที่มาของคอลลาเจนแต่ละชนิดก็มีผลต่อคุณภาพและการดูดซึมเช่นกัน ปลาทะเลน้ำลึก (Marine Collagen) มาจากเกล็ดและหนังปลาทะเล เช่น ปลาค็อด หรือปลาทูน่า มีโมเลกุลเล็กมาก ดูดซึมง่ายที่สุด เหมาะกับคนที่แพ้ง่าย เพราะโปรตีนปลามักก่อแพ้น้อย หนังวัว (Bovine Collagen) อุดมไปด้วยคอลลาเจน Type I และ III ซึ่งพบในผิวหนัง กระดูก และเส้นเอ็น ราคาย่อมเยากว่า Marine แต่ดูดซึมช้ากว่าเล็กน้อย ไม่เหมาะกับคนที่เลี่ยงผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หนังหมู (Porcine Collagen) หาง่าย ราคาถูก เหมาะกับสายประหยัดให้คอลลาเจน Type I และ III เช่นกัน ความเสี่ยงในการแพ้ปานกลาง แม้ว่า ‘คอลลาเจน’ จะมีหลายรูปแบบให้เลือก แต่ไม่ใช่ทุกแบบที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกคนได้เสมอ โดยเฉพาะถ้ากำลังพิจารณาระหว่างแบบ คอลลาเจนลิควิด, เม็ด และผง ก็ต้องชั่งน้ำหนักให้ดี เพราะแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป และเหมาะกับจังหวะชีวิตที่ไม่เหมือนกัน คอลลาเจนลิควิด หรือแบบดรอป มาแรงเพราะดูดซึมเร็ว ไม่ต้องผ่านการย่อย แถมรสชาติดี ดื่มง่าย พกสะดวก เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ และต้องการเห็นผลไว คอลลาเจนแบบเม็ด สะดวก หยิบกินง่าย ไม่ต้องเตรียมอะไร แต่ดูดซึมช้ากว่า เพราะร่างกายต้องย่อยก่อน บางคนอาจไม่ชอบเม็ดใหญ่ กลืนยาก คอลลาเจนแบบผง ราคาย่อมเยา ผสมกับเครื่องดื่มหรืออาหารได้หลากหลาย แต่ต้องชงทุกครั้ง อาจละลายไม่หมด และใช้เวลาเตรียม สรุป: ถ้าอยากได้ผลเร็ว ดูดซึมไว และใช้งานง่าย คอลลาเจนดรอป คือคำตอบ แต่ถ้าเน้นประหยัดและไม่รีบร้อน แบบเม็ดหรือผงก็ยังใช้ได้ดี ขึ้นอยู่กับสไตล์ชีวิตของแต่ละคน เทคนิคเลือก Collagen Liquid ให้ไม่พลาด ไม่ใช่ว่าดูดซึมเร็วแล้วจะเวิร์คเสมอ ต้องเลือกให้ถูกด้วย เลือกแบบ Hydrolyzed Collagen ผ่านการย่อยมาแล้ว ทำให้ดูดซึมได้เร็วกว่า โมเลกุลเล็กสุดๆ ร่างกายใช้ประโยชน์ได้ทันที ดูปริมาณคอลลาเจนต่อขวด แนะนำให้มีตั้งแต่ 2,500 – 10,000 mg ต่อหน่วยบริโภค ถ้าน้อยกว่านี้อาจไม่เห็นผลชัดเจน เช็คฉลากว่ามีน้ำตาลสูงหรือไม่ คอลลาเจนบางยี่ห้อผสมน้ำตาลเยอะเกินไป ไม่เหมาะกับสายสุขภาพ หลีกเลี่ยงสารกันเสีย สารกันเสียบางชนิดอาจสะสมในร่างกายได้ กินให้ถูกเวลา ควรกินตอนท้องว่าง หรือก่อนนอน เพื่อการดูดซึมสูงสุด อย่ากินพร้อมนมหรือชา เพราะอาจลดประสิทธิภาพ กินต่อเนื่อง อย่าคาดหวังผลทันที ควรกินอย่างน้อย 4–8 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นผล ผิวจะนุ่มลื่น ผมเงา เล็บแข็งแรงขึ้น