คู่มือนักช็อป จัดการ ‘กล่องพัสดุ’ อย่างไร ไม่ให้เป็นภาระโลก

Highlights

  • ความสะดวกสบายของการช็อปปิ้งออนไลน์กำลังสร้างขยะบรรจุภัณฑ์ปริมาณมหาศาล ซึ่งเป็นภาระหนักอึ้งของโลกและปัญหาลดโลกร้อนในปัจจุบัน เราทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหานี้ได้ง่ายๆ ด้วยการจัดการกล่องพัสดุตามหลัก 3R ที่เน้นความเข้าใจในวงจรขยะ
  • เริ่มต้นด้วยการ ลด (Reduce) การสร้างขยะที่ไม่จำเป็นตั้งแต่การสั่งซื้อ ใช้ซ้ำ (Reuse) กล่องและวัสดุกันกระแทกเพื่อยืดอายุ และสุดท้ายคือการ รีไซเคิล (Recycle) อย่างถูกต้อง ด้วยการแยกวัสดุที่ไม่ใช่กระดาษออกให้หมดและพับให้แบน การกระทำเล็กๆ ที่ใส่ใจเหล่านี้จะช่วยให้โลกของเรายั่งยืนขึ้นได้จริง

ความสะดวกสบายของการช็อปปิ้งออนไลน์มาพร้อมกับผลข้างเคียงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ ‘กล่องพัสดุ’ และบรรจุภัณฑ์ที่ล้นบ้านอย่างรวดเร็ว ปริมาณขยะจากอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล กำลังเป็นภัยเงียบที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง ตั้งแต่การใช้ทรัพยากรในการผลิตไปจนถึงปัญหาขยะล้นหลุมฝังกลบ

ในฐานะนักช็อปยุคใหม่ที่ใส่ใจ เราต้องเปลี่ยนบทบาทจากผู้สร้างขยะเป็นผู้จัดการขยะที่ชาญฉลาด เพื่อช่วยลดโลกร้อนอย่างยั่งยืน

กล่องพัสดุไม่ใช่แค่กระดาษ แต่คือการใช้ทรัพยากร พลังงาน และการสร้างมลพิษตลอดวงจรชีวิต

  • ต้นน้ำ > ใช้ทรัพยากรมหาศาล การผลิตกล่องกระดาษต้องใช้ไม้ น้ำ และพลังงานสูง ส่วนพลาสติกและโฟมกันกระแทกมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • ปลายน้ำ > ระบบขยะรับไม่ไหว การเติบโตของการช็อปปิ้งออนไลน์ทำให้ปริมาณขยะบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ขยะเหล่านี้มักมีส่วนประกอบหลากหลาย เช่น เทปกาว, ซองพลาสติก, โฟม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งที่ย่อยสลายยากมาก (พลาสติกบางชนิดใช้เวลานานถึง 450 ปี) 
  • ระยะยาว > ปัญหาการปนเปื้อน กล่องที่เปื้อนคราบสกปรก หรือมีวัสดุอื่นที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ปะปนอยู่ (เช่น เทปกาว, สติกเกอร์) จะถูกคัดทิ้งออกจากกระบวนการรีไซเคิล ทำให้ขยะจำนวนมากไปจบที่หลุมฝังกลบ

วิธีจัดการที่ดีที่สุดคือการใช้หลักการ 3R (Reduce, Reuse, Recycle) ที่ปรับใช้กับขยะพัสดุโดยเฉพาะ

  • ลด (Reduce) ช็อปอย่างมีสติ ทางออกที่ดีที่สุดคือการสร้างขยะให้น้อยที่สุดตั้งแต่ต้นทาง เช่น
    – การรวมคำสั่งซื้อ หากสั่งของหลายชิ้น ควรพยายามรวมออเดอร์ให้เป็นกล่องเดียว เพื่อลดจำนวนกล่องและวัสดุห่อหุ้ม
    – ปฏิเสธวัสดุที่ไม่จำเป็น ถ้าสินค้าไม่แตกหักง่าย (เช่น เสื้อผ้า) ลองระบุในหมายเหตุถึงผู้ขายว่า ‘งดใช้วัสดุกันกระแทกและพลาสติกที่ไม่จำเป็น’
    – เลือกบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก สนับสนุนร้านค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
  • ใช้ซ้ำ (Reuse) ยืดอายุการใช้งานของกล่องและวัสดุให้มากที่สุด ก่อนจะทิ้ง
    – กล่องส่งต่อ/จัดเก็บ กล่องที่สภาพดีสามารถนำมาใช้ซ้ำเป็นกล่องสำหรับส่งพัสดุในครั้งต่อไป หรือใช้สำหรับจัดเก็บสิ่งของในบ้าน
    – วัสดุกันกระแทก พลาสติกกันกระแทก หรือกระดาษฝอยที่มากับพัสดุ สามารถเก็บไว้ใช้ห่อหุ้มของสำหรับการส่งต่อไป หรือเก็บไว้ใช้เวลาจัดเก็บของแตกหักในบ้าน
    – DIY สร้างสรรค์ ดัดแปลงกล่องเป็นของใช้ใหม่ เช่น ที่ลับเล็บแมว, กล่องเพาะต้นกล้า, หรืออุปกรณ์จัดระเบียบในลิ้นชัก
  • รีไซเคิล (Recycle) เมื่อใช้ซ้ำไม่ได้แล้ว ต้องมั่นใจว่าขยะจะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างสมบูรณ์
    แยกวัสดุให้ขาด นี่คือขั้นตอนสำคัญที่สุด! ต้องแกะเทปกาว, สติกเกอร์, ลวดเย็บกระดาษ, และเชือก ออกจากกล่องกระดาษให้หมด
    พับให้แบนราบ กล่องกระดาษทุกชิ้นต้องถูกพับให้แบนเพื่อประหยัดพื้นที่ในการขนส่งและจัดเก็บ
    – แยกประเภทให้ชัดเจน เช่น กระดาษ กล่องที่สะอาดและแกะส่วนอื่นออกหมดแล้ว ทิ้งในถังขยะกระดาษ ในส่วน ‘พลาสติก หรือ โฟม พลาสติกกันกระแทกที่สะอาดและแห้ง ให้ทิ้งในถังขยะพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ หรือรวบรวมส่งมอบให้กับโครงการรีไซเคิลพลาสติกยืดโดยเฉพาะ เม็ดโฟมหรือโฟมขึ้นรูปส่วนใหญ่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ ต้องทิ้งเป็นขยะทั่วไป (เว้นแต่จะมีจุดรับเฉพาะ)

 

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top