Highlights
- การใช้ชีวิตในเมืองกับสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากเลือกที่อยู่อาศัยได้ถูกประเภท ทาวน์โฮมติดรถไฟฟ้า คือทางออกที่สมบูรณ์แบบ เพราะตอบโจทย์ทุกมิติของ Pet Parent ยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่หลายชั้นที่ตอบสนองสัญชาตญาณสัตว์เลี้ยง มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าคอนโด และเข้าถึงพื้นที่สีเขียวได้ง่าย
- การมีทำเลใกล้รถไฟฟ้ายังช่วยลดเวลาเดินทางอย่างมหาศาล ทำให้คุณมีเวลาคุณภาพกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น และยังเข้าถึงโรงพยาบาลสัตว์หรือบริการ Pet Service ชั้นนำได้อย่างรวดเร็ว ทาวน์โฮมจึงเป็นมากกว่าบ้าน แต่คือการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้กับคุณและสมาชิกสี่ขาที่คุณรักอย่างแท้จริง
ยุคนี้เป็นยุคทองของ Pet Parent อย่างแท้จริง ข้อมูลจากหลายผลวิจัยเผยว่า คนไทยกว่า 49% เลือกเลี้ยงสัตว์แทนการมีลูก และพร้อมทุ่มค่าใช้จ่ายดูแลสัตว์เลี้ยงเหมือนสมาชิกในครอบครัว (Pet Parent) เฉลี่ยปีละ 1-2 หมื่นบาทต่อตัว สิ่งที่ตามมาคือ โจทย์ใหญ่ของคนเมืองที่ว่า ‘จะอยู่ยังไงให้สะดวกทั้งตัวเราและสัตว์เลี้ยง?’
คำตอบคลาสสิกของคนเมืองคือคอนโดมิเนียม แต่หลายครั้งคอนโดก็มาพร้อมกฎระเบียบที่เข้มงวด ทั้งเรื่องขนาดสัตว์เลี้ยง ค่าส่วนกลางที่แพงขึ้น หรือแม้แต่การห้ามเลี้ยงเด็ดขาด ส่วนบ้านเดี่ยวชานเมือง แม้จะมีพื้นที่กว้าง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเดินทางที่ยาวนานจนแทบไม่เหลือเวลาให้ใช้ชีวิต
นี่คือเหตุผลที่ ‘ทาวน์โฮมติดรถไฟฟ้า’ ได้กลายมาเป็นตัวเลือกที่ลงตัวและตอบโจทย์ Pet Lover ยุคใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง เพราะมันช่วยแก้ปัญหาคลาสสิกของคนเมืองได้หลายเรื่องพร้อมกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่ง 4 เหตุผลหลัก ๆ มีดังนี้

จบปัญหาพื้นที่จำกัด การใช้ชีวิตแบบ 2-3 ชั้น ดีต่อสัญชาตญาณสัตว์เลี้ยง
หนึ่งในข้อดีที่สุดของทาวน์โฮมคือพื้นที่แนวตั้ง ด้วยดีไซน์แบบ 2-3 ชั้น ทำให้สัตว์เลี้ยงมีอาณาเขตที่ใหญ่กว่าห้องสี่เหลี่ยมในคอนโด ถึงแม้จะมีพื้นที่ใช้สอยเท่ากัน แต่พื้นที่แนวดิ่งช่วยให้สุนัขหรือแมวได้แสดงออกถึงสัญชาตญาณตามธรรมชาติได้ดีกว่า
- สุนัข: สุนัขต้องการพื้นที่ในการวิ่ง เดินเล่น และการเปลี่ยนวิว การมีหลายชั้นช่วยให้มันได้สำรวจอาณาเขตของตัวเอง แม้จะอยู่ภายในบ้านก็ตาม การเดินขึ้นลงบันไดเป็นประจำก็เป็นการออกกำลังกายเบาๆ ที่ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวได้
- แมว สำหรับแมว ซึ่งเป็นสัตว์ที่ชอบปีนป่ายและมองลงมาจากที่สูง การมีหลายชั้นเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์มาก สามารถติดตั้ง Cat Condo หรือชั้นสำหรับปีนในแนวตั้งได้โดยไม่ทำให้ห้องดูแน่นจนเกินไป แถมยังช่วยให้แมวรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายในพื้นที่ส่วนตัว
การแยกพื้นที่ตามชั้นยังช่วยเรื่องการจัดการง่ายขึ้น เช่น อาจกำหนดให้ชั้นล่างเป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมร่วมกันและเป็นห้องน้ำน้อง ๆ ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่พักผ่อนที่ปลอดสัตว์เลี้ยงในบางช่วงเวลา ซึ่งทั้งหมดนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในห้องชุดคอนโดฯ

ใกล้หมอ ชิดที่ทำงาน ลดเวลาเดินทางทั้งตัวคุณ และสัตว์เลี้ยง
สำหรับคนเมือง เวลาคือสิ่งมีค่า และการต้องใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงไปกับการเดินทางในแต่ละวันหมายถึงเวลาน้อยลงที่เราจะอยู่กับสัตว์เลี้ยงที่บ้าน
การเลือกทาวน์โฮมติดรถไฟฟ้าจึงเป็นทางออกที่ชาญฉลาดที่สุด เพราะหมายความว่าคุณจะมีเวลา
- กลับบ้านเร็วขึ้น สามารถเดินทางถึงบ้านได้รวดเร็วทันใจกว่าการอยู่บ้านเดี่ยวชานเมืองที่ต้องเจอกับรถติด ทำให้คุณมีเวลามากขึ้นในการพาพวกเขาออกไปเดินเล่น หรือใช้เวลานั่งดูทีวีด้วยกัน
- พาไปหาหมอได้ทันท่วงที เมื่อสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วย การเดินทางไปโรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ ๆ ในเมืองอาจเป็นเรื่องฉุกเฉินและต้องเร่งด่วน การเดินทางที่สะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะขับรถส่วนตัวหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะ จะช่วยลดความเสี่ยงในช่วงเวลาวิกฤตได้มาก
- เข้าถึง Pet Service ที่มีคุณภาพ ในทำเลติดรถไฟฟ้า มักจะมีคลินิกสัตว์ที่เปิด 24 ชั่วโมง หรือร้าน Pet Grooming คุณภาพสูงที่ไปมาสะดวก การลดเวลาเดินทางเหล่านี้ช่วยให้ชีวิตทั้งของคุณและสัตว์เลี้ยงมีคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

เคลียร์กลิ่น-คลีนสะอาด ดีไซน์ ทาวน์โฮม ช่วยให้บ้านไร้กลิ่นรบกวน
ปัญหาคลาสสิกของคนเลี้ยงสัตว์ในที่พักอาศัยขนาดเล็กคือ กลิ่น และ ความสะอาด ซึ่งกลิ่นที่สะสมจากปัสสาวะหรือมูลสัตว์ในพื้นที่ปิดอย่างคอนโดฯ สามารถสร้างปัญหาให้กับเพื่อนบ้านได้อย่างรุนแรง ทาวน์โฮมช่วยแก้ปัญหานี้ด้วยดีไซน์ที่เอื้อต่อสุขอนามัยที่ดีกว่า
- มีพื้นที่ระบายอากาศและแสงแดดที่ดี ทาวน์โฮมส่วนใหญ่มีหน้าต่างและประตูในหลายทิศทาง รวมถึงด้านหน้าและด้านหลังบ้าน ทำให้มีช่องทางในการระบายอากาศที่ยอดเยี่ยม สามารถเปิดรับลมให้กลิ่นไม่สะสม และแสงแดดที่ส่องถึงยังช่วยฆ่าเชื้อและลดความอับชื้น
- การเลือกวัสดุและการดีไซน์ที่คำนึงถึงการใช้ชีวิต โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสมัยใหม่หลายแห่งเริ่มดีไซน์พื้นผิวที่ทำความสะอาดง่าย ไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้อง หรือการใช้วัสดุที่ไม่เก็บกลิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่กำหนดให้เป็นมุมของสัตว์เลี้ยง
- พื้นที่ซักล้างที่ชัดเจน การมีพื้นที่หลังบ้านหรือพื้นที่ซักล้างที่แยกออกมา ช่วยให้สามารถจัดการกับอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง เช่น การซักผ้าห่ม ทำความสะอาดห้องน้ำ หรือถังเก็บมูลสัตว์ได้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ต้องทำความสะอาดปะปนกับพื้นที่ปรุงอาหารหรือห้องนอน
เมื่อบ้านถูกดีไซน์มาเพื่อรองรับการใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์เลี้ยงอย่างเข้าใจ ปัญหาเรื่องกลิ่นและความสะอาดก็จะหมดไป ทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตร่วมกับน้อง ๆ ได้อย่างสบายใจ และเพื่อนบ้านก็แฮปปี้






