Highlights
- ถ้าเครื่องเกิดการกระตุกขณะเล่นเกม ไม่เพียงแค่โทษ Spec ของโทรศัพท์ แต่สามารถจัดการได้ง่าย ๆ
- เคลียร์ RAM/Storage คือการหายใจปิดแอปฯ พื้นหลังและเหลือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เกิน 15% เพื่อให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- เน้น FPS ไม่ใช่กราฟิกสูงสุด ปรับลด Shadow, Texture Quality ลง และเน้นตั้งค่า Frame Rate (FPS) ให้สูงที่สุด เพื่อความลื่นไหลในการตอบสนองเกม
- จัดการความร้อนภายนอกคือหัวใจ ถอดเคสขณะเล่นเกม และหลีกเลี่ยงการชาร์จไปเล่นไป คือสุดยอดวิธีลด Thermal Throttling ที่ทำให้เครื่องกระตุก
ปัญหาสุดกวนใจที่เกมเมอร์ต้องเจอ หนีไม่พ้น อาการเครื่องกระตุกและ ความร้อนสูงจนเครื่องดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ สมาร์ทโฟน คือสนามรบและพื้นที่สังสรรค์หลักของชาว Gen Z ที่ใช้ชีวิตติดเกมและโซเชียล การที่เครื่องมือคู่ใจมันไม่เป็นใจนี่มันน่าหงุดหงิดกว่าการแพ้ Rank อีกนะ!
ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย เพราะมันไม่ใช่แค่ประสบการณ์การเล่นเกมที่ไม่ดี แต่มันยังส่งผลต่อ อายุการใช้งานแบตเตอรี่และตัวเครื่องในระยะยาวด้วย วันนี้เลยขอรวม LifeHack จัดเต็มฉบับเกมเมอร์ตัวจริง ที่ช่วยให้การเล่นเกมบน สมาร์ทโฟนของคุณ เล่นเกมลื่น ได้แบบไม่มีสะดุด
ก่อนจะโทษสเปกเครื่อง ลองเช็กสมาร์ทโฟนคู่ใจของเราก่อนว่าอยู่ในสภาพพร้อมรบหรือเปล่า เพราะบางทีสาเหตุของความหน่วงก็มาจากไฟล์ที่เยอะภายในเครื่อง
1. ปิดแอปฯ พื้นหลังให้หมดจด แอปพลิเคชันที่ไม่ได้ปิดสนิทและยังทำงานอยู่เบื้องหลัง (Background Apps) จะแย่งใช้ทรัพยากรทั้ง RAM และ CPU โดยไม่จำเป็น ก่อนเข้าเกมโหดๆ ให้ทำการ Force Close หรือ Swipe Up ปิดแอปฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะพวกแอปฯ โซเชียลมีเดีย หรือแอปฯ สตรีมมิ่งที่อาจมีการ Refresh ข้อมูลอยู่ตลอดเวลา
2. เคลียร์พื้นที่จัดเก็บข้อมูล นี่คือปัจจัยสำคัญที่หลายคนมองข้าม! หากพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของคุณเหลือต่ำกว่า 10-15% ของความจุรวม ระบบปฏิบัติการ (ทั้ง Android และ iOS) จะเริ่มทำงานได้ไม่เต็มที่และช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
- ลบไฟล์ขยะและแคช ใช้ฟีเจอร์ Cleaner หรือ Optimization ที่มีมากับเครื่อง หรือลบไฟล์แคชในแอปฯ ที่ใช้บ่อยๆ เช่น แอปฯ โซเชียล
- ย้ายหรือลบไฟล์มีเดีย รูปภาพและวิดีโอเก่า ๆ ที่เก็บไว้เป็น GB ก็เป็นตัวการสำคัญ ลองย้ายไปเก็บไว้ใน Cloud หรือ External Storage บ้าง
3. อัปเดตระบบปฏิบัติการและตัวเกมสม่ำเสมอ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและผู้พัฒนาเกมจะปล่อยอัปเดตออกมาเพื่อแก้ไข Bug, อุดช่องโหว่ และที่สำคัญคือ เพิ่มประสิทธิภาพ(Optimization) การทำงานให้ดีขึ้นอยู่เสมอ การไม่อัปเดตอาจทำให้คุณพลาดการแก้ไขปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อความลื่นไหลในการเล่นเกม
ปรับการตั้งค่ากราฟิกเกมให้เหมาะสม ไม่ใช่สูงสุด ความเข้าใจผิดที่ใหญ่ที่สุดคือ ปรับกราฟิกสูงสุดแล้วจะดีที่สุด ซึ่งความเป็นจริงคือไม่ใช่เลย! แม้เครื่องจะแรงแต่การตั้งค่ากราฟิกที่สูงเกินไปก็จะทำให้เครื่องทำงานหนักเกินความจำเป็น และนำไปสู่ปัญหาความร้อนและการกระตุกได้เร็วขึ้น
1. เน้น Frame Rate เป็นหลัก สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น FPS หรือ MOBA สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เฟรมเรต (FPS) ที่สูงและนิ่ง เพื่อให้ภาพไหลลื่น ตอบสนองต่อการควบคุมได้อย่างแม่นยำ
- ตั้งค่า FPS พยายามเลือกค่า FPS ให้สูงสุดเท่าที่เกมจะรองรับ (เช่น 60 FPS หรือ 90/120 FPS หากเครื่องรองรับ)
- ลดคุณภาพกราฟิก เพื่อให้ได้ FPS สูงสุด คุณควรยอมลดการตั้งค่าอื่นๆ ลงมา เช่น Shader, Shadows, Texture Quality หรือ Anti-Aliasing ให้เป็นระดับ Medium หรือ Low แทน Ultra
2. ใช้ฟีเจอร์ Game Booster หรือ Turbo Mode สมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ หรือแม้แต่รุ่นทั่วไปในปัจจุบัน มักจะมีซอฟต์แวร์พิเศษที่เรียกว่า Game Mode หรือ Game Launcher ฟีเจอร์เหล่านี้จะ
- จัดสรรทรัพยากร ให้ CPU/GPU ทำงานเพื่อเกมที่เรากำลังเล่นเป็นหลัก
- บล็อกการแจ้งเตือน ป้องกันการรบกวนที่ทำให้เกมสะดุด
- บางรุ่นมีฟังก์ชัน ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่ายให้ดีขึ้นขณะเล่นเกม
3. ปรับลดความละเอียดของหน้าจอ (ถ้ามี) ในสมาร์ทโฟนบางรุ่น โดยเฉพาะรุ่นเรือธง คุณอาจสามารถปรับลดความละเอียดของหน้าจอลงได้ (เช่น จาก 2K เป็น Full HD) การทำเช่นนี้จะช่วยให้ GPU ประมวลผลภาพได้เร็วขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง ส่งผลให้ความร้อนสะสมน้อยลง ด้วย
เมื่อจัดการระบบภายในและตั้งค่าเกมเรียบร้อยแล้ว คราวนี้มาดูปัจจัยภายนอกที่ช่วยลดอาการกระตุก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ถอดเคสออก เคสโทรศัพท์สวย ๆ หรือเคสกันกระแทกหนา ๆ คือตัวกักเก็บความร้อนชั้นดี! เมื่อเพื่อน ๆ กำลังเล่นเกมหนัก ความร้อนที่ระบายออกมาจากตัวเครื่องจะถูกเคสกักไว้ ทำให้เครื่องร้อนเร็วขึ้นและนานขึ้น ถอดเคสออก คือวิธีที่ง่ายที่สุดและได้ผลที่สุดในการช่วยให้เครื่องระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว
2. หลีกเลี่ยงการชาร์จไปเล่นไป นี่คือข้อห้ามที่เกมเมอร์ทุกคนต้องจำ การชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่เล่นเกม เป็นการสร้างภาระความร้อนให้กับเครื่องเป็นสองเท่า การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เครื่องร้อนจนกระตุก แต่ยังส่งผลเสียต่อ สุขภาพแบตเตอรี่ อย่างรุนแรงในระยะยาวอีกด้วย
3. เล่นในห้องแอร์ หรือใช้พัดลมช่วย อุณหภูมิห้องส่งผลต่อการระบายความร้อนโดยตรง การเล่นในสภาพแวดล้อมที่เย็น เช่น ในห้องปรับอากาศ หรือแม้กระทั่งการใช้ พัดลมเล็ก ๆ หรือ พัดลมระบายความร้อนสำหรับมือถือ เป่าเข้าที่ด้านหลังตัวเครื่อง ก็ช่วยลดอุณหภูมิสะสมได้อย่างมีนัยสำคัญ
4. พักเครื่องบ้าง เมื่อรู้สึกว่าเครื่องเริ่มร้อนจัดจริงๆ การพักเบรกสัก 5-10 นาที ปล่อยให้เครื่องได้ลดอุณหภูมิลงตามธรรมชาติ ก็เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการยืดอายุการใช้งานเครื่องและแบตเตอรี่ของคุณด้วย
การเป็นเกมเมอร์ยุค Gen Z ที่ต้องพึ่งพา สมาร์ทโฟน ในทุกมิติไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การดูแลและปรับแต่งอุปกรณ์ ให้เหมาะสมก็เป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่ช่วยให้เราคว้าชัยชนะ ในโลกดิจิทัลมาครองได้แบบไม่ต้องหงุดหงิดกับอาการกระตุกอีกต่อไป
