ติดแบล็คลิสซื้อบ้านต้องทำยังไง? เปิดตัวช่วยกู้เงินซื้อบ้าน แก้ปัญหาแบล็คลิส

 

สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แต่กลับพบว่าเครดิตไม่ดีเท่าที่ควร เพราะอาจเคยติดแบล็คลิสของสินเชื่อหรือบัตรเครดิตใด ๆ จากสถาบันการเงินมาก่อน จึงทำให้อาจต้องพลาดโอกาสของการซื้อบ้านไปโดยปริยาย ดังนั้นถ้าคุณต้องการแก้ไขปัญหาการถูกแบล็คลิสและสามารถซื้อบ้านได้ รวมไปถึงการทำความรู้จักกับตัวช่วยกู้เงินซื้อบ้านที่จะเหมาะสำหรับคนเคยติดแบล็คลิสมาก่อน ขอแนะนำให้คุณอ่านข้อมูลภายในบทความนี้ให้จบ เชื่อว่าคุณจะได้คำตอบที่ครบต่อความต้องการแน่นอน

 

เมื่อรู้ว่าติดแบล็คลิสแล้วต้องแก้ไขอย่างไร?

เมื่อคุณพลาดติดแบล็คลิสกับสถาบันการเงินแห่งใดแห่งหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะเป็นด้วยสาเหตุใดก็ตาม คุณต้องมองหาวิธีแก้ไขให้รวดเร็วและเป็นวิธีแก้ไขที่คุณสามารถทำได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเงินโดยรวมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นเมื่อรู้ว่าคุณติดแบล็คลิสแล้วให้คุณใช้วิธีการแก้ไขดังต่อไปนี้

 

1.ปรับวิธีการชำระหนี้

เริ่มต้นด้วยการปรับวิธีการชำระหนี้ของคุณให้เหมาะสมต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ตรวจสอบดูว่ามีหนี้สินคงค้างใดบ้าง  พร้อมการจัดอันดับความสำคัญของหนี้ในแต่ละสถาบันการเงิน ซึ่งการจัดอันดับนี้คุณจะต้องลงลิสต์ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้ครบ เพื่อการจัดสรรหนี้อย่างถูกต้อง ถ้าเป็นหนี้ย่อยจากสถาบันการเงินเดียวกัน ให้คุณจัดสรรให้กลายเป็นก้อนเดียว เพื่อทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงตามไปด้วย ที่สำคัญที่สุดคือการปรับพฤติกรรมการใช้หนี้ของคุณให้มีความตรงเวลา และจะต้องทำอย่างต่อเนื่องทุกเดือนจนกว่าจะหมดหนี้ที่เป็นอยู่ เพื่อเป็นการสร้างเครดิตใหม่ พร้อมการเก็บใบเสร็จต่าง ๆ ในการชำระหนี้ไว้ให้ครบทุกใบ เพื่อนำมาสู่การเป็นหลักฐานสำหรับการยื่นกู้ซื้อบ้านในอนาคต

 

2.เจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้

ถ้าหนี้ของคุณมีจำนวนเงินคงค้างสูงจนรู้สึกเกินกำลังของตัวคุณ ให้เข้าเจรจาต่อรองกับสถาบันการเงิน เพื่อทำการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ยื่นขอลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือการขยายระยะเวลาในการชำระแทน ส่วนหนี้สินย่อยแต่เป็นสถาบันการเงินเดียวกัน ให้คุณรวมเป็นก้อนเดียวหรือการเจรจาเพื่อขอสถาบันการเงินลดต้นลดดอก วิธีนี้จะช่วยทำให้คุณสามารถ ชำระหนี้ให้หมดได้ง่ายและเร็วขึ้น ที่สำคัญคือในช่วงเวลาของการปรับโครงสร้างหนี้ คุณควรจะต้องจ่ายให้ตรงเวลาที่สุด ดังนั้นจึงควรคำนวณให้ดีว่าจะจ่ายวันใดที่จะทำให้คุณสามารถจ่ายได้ตรง เพื่อทำให้สถาบันการเงินรู้สึกมั่นใจต่อการชำระคืนและไม่ทำให้เครดิตของคุณต้องเสียหายมากขึ้น

 

3.เริ่มมีเงินออม

เมื่อคุณเริ่มชำระหนี้ได้มากพอสมควรแล้ว ให้คุณเริ่มเก็บเงินออมร่วมไปด้วย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ลดการใช้บัตรเครดิตและลดการซื้อสิ่งของต่าง ๆ แบบเงินผ่อน เพื่อให้คุณมีเงินเก็บในธนาคารมากพอในการสร้างเครดิตใหม่หลังการปลดแบล็คลิส นอกจากนี้ช่วงเวลาที่คุณชำระหนี้เก่า เก็บออมเงินใหม่ ให้คุณตรวจสอบข้อมูลแบล็คลิสของตัวคุณอยู่เรื่อย ๆ แล้วเก็บหลักฐานไว้ เพื่อเป็นการยืนยันกับทางธนาคารที่คุณจะขอยื่นกู้เงินซื้อบ้าน ทำให้ทางธนาคารได้เห็นถึงการปลดแบล็คลิสของคุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนของเครดิตบูโรที่คุณตรวจสอบนั้นควรอัพเดตเสมอ เพราะหลังจากคุณจ่ายหนี้สินจนครบถ้วนแล้ว ชื่อของคุณจะยังคงติดอยู่ภายในข้อมูลเครดิตบูโรไปอีกยาวถึง 3 ปีเลยทีเดียว ที่สำคัญคือในช่วงเวลานี้ไม่ควรเป็นหนี้ก้อนใหญ่ใด ๆ เพิ่มอีกเด็ดขาดและควรรักษาเครดิตที่ดีไว้เสมอ

 

4.สร้างเครดิตใหม่

ช่วงเวลารอชื่อหลุดจากแบล็คลิส 3 ปี หรือต้องการยื่นกู้ให้ได้รับการอนุมัติเร็วขึ้น แนะนำให้คุณสร้างเครดิตใหม่ขึ้นมา โดยที่เครดิตนี้ต้องมีความน่าเชื่อถือสูง เช่น การขอสินเชื่อเงินกู้ต่าง ๆ จากสถาบันการเงิน หรือการทำบัตรเครดิตที่วงเงินไม่จำเป็นต้องสูงมาก แต่คุณจะต้องสามารถชำระได้เต็มวงเงินหรือเป็นการชำระตามรายงวดที่จะต้องตรงเวลาเท่านั้น แล้วจะต้องไม่ขาดการชำระอย่างเด็ดขาด สำหรับผู้ที่ปลดแบล็คลิสใหม่อาจจะยื่นขอกู้ต่าง ๆ ได้ไม่ง่ายนัก ดังนั้นให้คุณใช้วิธีการกู้ร่วมกับบุคคลในครอบครัวที่ไม่เคยติดแบล็คลิสมาก่อนและมีประวัติการผ่อนชำระที่ดี เพื่อทำให้คุณผ่านการอนุมัติสินเชื่อเงินกู้หรือบัตรเครดิตต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น

 

5.กู้ร่วมกับบุคคลใกล้ชิด

เมื่อใดที่คุณเริ่มมีเครดิตที่ดี สามารถสร้างเครดิตใหม่ที่น่าเชื่อถือได้แล้วต้องการกู้สินเชื่อซื้อบ้านให้ได้เร็วมากขึ้นและผ่านการอนุมัติง่ายกว่าเดิม แนะนำให้คุณใช้วิธีการกู้ซื้อบ้านร่วมกับบุคคลใกล้ชิดที่เป็นญาติหรือคู่สมรส โดยผู้ที่กู้ร่วมควรมีเครดิตบูโรที่ดีเสมอ ไม่มีการติดแบล็คลิสใด ๆ มาก่อน เพื่อทำให้การกู้เงินมาซื้อบ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี

 

แนะนำตัวช่วยในการกู้เงินซื้อบ้าน

ถ้าคุณสามารถปลดแบล็คลิสได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมการทำเครดิตที่ดีจนมีความน่าเชื่อถือและสามารถติดต่อกับทางสถาบันการเงินเพื่อกู้ซื้อบ้านได้แล้ว ขอแนะนำตัวช่วยในการกู้เงินซื้อบ้านที่จะทำให้คุณเดินเรื่องต่าง ๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังนี้

 

1.การเตรียมเรื่องเอกสาร

เรื่องของเอกสารถือว่าสำคัญมากในการยื่นกู้เพื่อซื้อบ้าน เพราะจะเป็นส่วนสำคัญในการตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อการอนุมัติต่อไป ดังนั้นเอกสารที่คุณควรต้องเตรียมให้ครบ คือ

  •       บัตรประชาชน
  •       ทะเบียนบ้าน
  •       ใบเปลี่ยนชื่อและนามสกุล (สำหรับผู้ที่เคยเปลี่ยนชื่อและนามสกุลมาก่อน)
  •       สลิปเงินเดือน
  •       หนังสือรับรองเงินเดือนจากที่ทำงาน
  •       เอกสารการรับรองประสบการณ์ทำงาน
  •       Statement หรือบัญชีเงินฝากที่มีการอัพเดทย้อนหลัง 6 เดือน
  •       สำหรับการเลือกบัญชีธนาคาร ควรเลือกเป็นบัญชีที่คุณมีเงินเก็บออมไว้อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน
  •       บัญชีหรือหลักฐานการแสดงรายได้เสริมต่าง ๆ ที่ทำให้คุณได้เงินเพิ่มมากขึ้น
  •       อายุของผู้ยื่นกู้ซื้อบ้านควรครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และต้องไม่เกินไปกว่า 65 ปี
  •       มีสัญชาติไทย
  •       เอกสารเกี่ยวกับเครดิตบูโรแบบอัพเดท ที่ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคุณจ่ายหนี้สินจนครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

2.เปรียบเทียบความคุ้มค่า

การเลือกธนาคารเพื่อยื่นขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน คุณควรเปรียบเทียบหลายธนาคารเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ย ธนาคารใดให้ดี ไม่สูงมากเกินไป ธนาคารนั้นถือว่าน่าสนใจ นอกจากนี้คุณควรเลือกจากปัจจัยของการอนุมัติที่ง่ายขึ้น เช่น ธนาคารที่พร้อมอนุมัติให้แม้แต่ผู้ที่ทำอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์, พ่อค้า-แม่ค้า และกลุ่มอาชีพที่ปล่อยกู้ได้ยาก ซึ่งธนาคารใดสามารถปล่อยให้กับอาชีพเหล่านี้ การขอสินเชื่อของคุณย่อมง่ายด้วยเช่นกัน โดยธนาคารที่สามารถขอกู้สินเชื่อซื้อบ้านใหม่ที่ดอกเบี้ยไม่ถึงกับสูงมากและอนุมัติง่าย คือ

  •       ธนาคารไทยพาณิชย์ มีสินเชื่อซื้อบ้านใหม่ที่ผู้ประกอบอาชีพอิสระสามารถยื่นขอกู้ได้
  •       สินเชื่อเคหะของธนาคารออมสิน ช่วยทำให้พ่อค้าและแม่ค้าออนไลน์ สามารถนำหลักฐานการขายและรายได้ ผ่านบัญชีธนาคารในแต่ละเดือนมาแสดงเพื่อขอยื่นกู้ซื้อบ้านได้
  •       สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารกรุงศรีอยุธยา อนุญาตให้ผู้กู้เป็นผู้ทำธุรกิจหรืออาชีพอิสระที่ไม่ต่ำกว่า 2 ปี นำหลักฐานมาแสดงเพื่อขอสินเชื่อบ้านได้

 

3.เลือกราคาบ้านที่เหมาะสม

การเลือกซื้อบ้านควรเป็นไปให้เหมาะสมต่อฐานเงินเดือนของคุณ พร้อมเรียนรู้ว่าการเลือกบ้านราคาเท่าไหร่ จึงจะทำให้การอนุมัติของทางธนาคารง่ายมากยิ่งขึ้น สำหรับการกู้สินเชื่อจากทางธนาคารจะสามารถกู้ได้สูงสุด คือ 50 เท่าของเงินเดือนและรายได้ทั้งหมด แต่สำหรับผู้ที่เคยติดแบล็คลิสมาก่อน แม้จะทำการจ่ายหนี้สินจนครบถ้วน พร้อมการมีเครดิตที่ดีแล้วก็อาจจะถูกปรับลดลงมาเล็กน้อย สัดส่วนความสามารถของการผ่อนชำระที่ทางธนาคารจัดไว้จะไม่เกิน 40% ของอัตราเงินเดือนหรือรายได้ทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการผ่อนจ่ายที่จะไม่กระทบต่อเงินเดือนที่ได้รับมากจนเกินไป เช่น  เงินเดือน 15,000 บาท ธนาคารจะปล่อยวงเงินกู้สูงสุด 1 ล้านบาท โดยจำนวนการผ่อนต่องวดอยู่ที่ 6,000 บาทต่อเดือน  เงินเดือน 20,000 บาท ธนาคารจะปล่อยวงเงินกู้สูงสุด 1.6 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนเงินผ่อนต่องวดสูงสุด 10,000 บาท เป็นต้น ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีรายได้หลักหรือรายได้เสริม จึงควรมีหลักฐานมายื่นให้ทางธนาคารได้ตรวจสอบ เพื่อทำให้การอนุมัติวงเงินซื้อบ้านเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย

 

4.อย่าลืมการกู้ร่วม

การกู้ร่วมถือว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้คุณสามารถกู้เงินซื้อบ้านได้แบบผ่านฉลุย โดยเฉพาะผู้ที่กู้ร่วมนั้นมีฐานเงินเดือนดี มีความมั่นคงทางการเงินและมีเครดิตที่ดี จะยิ่งทำให้การกู้เพื่อซื้อบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมเป็นหลายเท่าตัว โดยขอแนะนำให้กู้ร่วมกับญาติพี่น้อง ผู้ที่มีนามสกุลเดียวกันในครอบครัว หรือคู่สมรส จะช่วยทำให้การอนุมัติจากสถาบันการเงินง่ายกว่าเดิม แต่ในยุคปัจจุบันมีหลายธนาคารที่สอดรับต่อความหลากหลายทางเพศ ด้วยการรับ พิจารณาคู่รัก LGBTI เพื่อการกู้ร่วมซื้อบ้านที่จะมีชื่อร่วมกันได้อย่างมั่นใจ

 

5.ศึกษาการใช้มาตรการ LTV

เมื่อไม่นานมานี้ภาครัฐมีการประกาศใช้มาตรการ LTV หรือ Loan to Value Ratio ที่จะเป็นการควบคุมเรื่องเงินดาวน์และเป็นการกำหนดวงเงินกู้ โดยจะเน้นผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกและไม่เคยติดสัญญาในการซื้อบ้านหลังอื่นมาก่อน พร้อมการเลือกบ้านที่มีราคาไม่เกินไปกว่า 10 ล้านบาท จะกู้เงินเพิ่มจากทางธนาคารได้อีก 10% ด้วยกัน เพื่อนำเงินในส่วนนี้ไปทำการตกแต่งบ้านและซื้อเฟอร์นิเจอร์กับสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ เพื่อการอยู่อาศัย ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้กู้ซื้อบ้านและคนในครอบครัว ซึ่งมาตรการนี้จะเน้นการปล่อยเงินกู้เพื่อกระตุ้นผู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยโดยเฉพาะและลดการซื้อสำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไร จึงถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเป็นของตัวเองในช่วงเวลานี้อย่างมาก ดังนั้นคุณจึงไม่ควรพลาดที่จะติดตามข่าวอัพเดทของมาตรการ LTV อยู่เสมอ

การติดแบล็คลิสอาจจะเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิด เพียงแต่คุณต้องพร้อมที่จะจ่ายคืนด้วยการปรับโครงสร้างหนี้, การไกล่เกลี่ย, การขอพักชำระหนี้ หรือการใช้วิธีอื่น ๆ เพื่อทำให้สถาบันการเงินได้เห็นถึงความรับผิดชอบของคุณ จากนั้นจัดการชำระหนี้ที่มีอยู่ให้เรียบร้อยและทำตามขั้นตอนที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นทั้งหมด เชื่อว่าคุณจะสามารถปลดแบล็คลิสและกลับมาเป็นผู้ที่มีเครดิตดี จนยื่นกู้เพื่อขอซื้อบ้านที่จะประสบความสำเร็จได้ง่ายมากขึ้น พร้อมสร้างครอบครัวให้มีความสุข และให้คุณนำประสบการณ์ติดแบล็คลิสนี้เตือนใจตนเองอยู่เสมอว่าเมื่อเป็นหนี้แล้ว ควรชำระให้ตรงและวางแผนทางการเงินให้ดี เพื่ออนาคตที่ราบรื่นของตัวคุณเองและคนในครอบครัว

Related Posts

Leave a Comment

Scroll to Top