Cryptocurrency คืออะไร มาทำความรู้จัก คริปโต ใน 10 นาทีกันครับ

เมื่อการลงทุนใน Cryptocurrency เริ่มได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกและกระจายเข้าสู่ประเทศไทย จนกลายเป็นข่าวใหญ่มานานหลายปี ปัจจุบันการลงทุนไปกับคริปโตฯ เริ่มเป็นรูปร่างที่ชัดเจนมากขึ้น เพราะมีการกำกับดูแลจากกฎหมายชัดเจนกว่าเดิม พร้อมการมีแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ถูกจัดทำขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายของไทยมาแล้วหลายราย จึงถือเป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ที่คนยุคนี้ไม่ควรพลาด!

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการลงทุน Cryptocurrency

ถ้าพูดถึง Cryptocurrency เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนต้องคิดถึงเหรียญชื่อดังอย่าง Bitcoin ขึ้นมาก่อนเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอน ซึ่ง Bitcoin นั้นถือเป็นหนึ่งในรูปแบบเหรียญคริปโตฯ ที่สามารถซื้อขายและแลกเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ได้ รวมไปถึงการเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถเก็บไว้ภายในกระเป๋า จากนั้นมีการพัฒนาสู่เหรียญคริปโตฯ ในรูปแบบอื่น ๆ ที่ถูกเรียกว่าสกุลเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินบาทไทย, ดอลลาร์สหรัฐ และเงินฟรังก์สวิส เป็นต้น แม้ว่าในอดีตเหรียญคริปโตฯ อาจจะมีไว้เพียงแค่การถือครองทั่วไป ไม่สามารถใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนหรือทำใด ๆ ได้

แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นสื่อกลางด้านการแลกเปลี่ยนสินค้า, งานบริการ และของต่าง ๆ ที่เป็นการยอมรับระหว่างผู้ใช้ร่วมกัน แม้แต่ธนาคารการเงินใหญ่ของบางประเทศ ยังมีการยอมรับเหรียญ Cryptocurrency และมีการทำสกุลเงินเป็นของตัวเอง เพื่อทำให้ประชาชนสามารถนำไปใช้ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการลงทุนดิจิทัลที่เติบโตมาจากเทคโนโลยีโดยแท้จริง ซึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้โลกยุคเก่าก้าวข้ามการลงทุนในรูปแบบเดิม ๆ สู่โลกยุคใหม่ มาจากเหรียญชื่อดังอย่าง Bitcoin ที่ถูกสร้างขึ้นจากซาโตชิ ชายชาวญี่ปุ่น ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีใครรู้ว่าผู้สร้าง Bitcoin ตัวจริงเป็นใคร แต่ในปัจจุบันเหรียญ Bitcoin กลับให้ราคาสูงกว่าหลักล้านบาทต่อเหรียญ จึงเป็นการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและการมาของเหรียญสกุลต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

คุณสมบัติด้านการใช้งานเบื้องต้นของ Cryptocurrency

ความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติการใช้งานเบื้องต้นของ Cryptocurrency คือ การเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะต้องมีการเข้ารหัสบนระบบ หรือที่ถูกเรียกว่าบล็อกเชน (Blockchain) พร้อมการมีเรื่องของราคาซื้อขายที่จะผันแปรไปตามกลไกตลาด หรือความต้องการซื้อขายในช่วงเวลานั้น ๆ ลักษณะจะคล้ายคลึงกับการเทรดหุ้น แต่จะให้ความคุ้มค่าและรูปแบบของการลงทุนที่ค่อนข้างหลากหลายกว่า พร้อมการเป็นสื่อกลางด้านการแลกเปลี่ยนของสินค้า บริการ และสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่มาในรูปแบบของดิจิทัล

แต่ต้องเข้าใจว่า Cryptocurrency จะไม่ใช่ลักษณะทางกายภาพที่เหมือนกับสกุลเงินโลก ที่ถูกใช้อยู่ในแต่ละประเทศ  เพราะสกุลเงินโลกของประเทศต่าง ๆ จะมีการพิมพ์ออกมาเป็นธนบัตรหรือเหรียญจำนวนมาก รวมไปถึงการมีโฉนดที่ดินหรือการมีสินทรัพย์ที่จับต้องได้ แต่ในขณะเดียวกันคริปโตฯ จะมาในรูปแบบของสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะอยู่ภายในบล็อกเชนเท่านั้น จึงไม่มีลักษณะใด ๆ ทางกายภาพให้จับต้องได้จริง เพียงแต่มีมูลค่าและมีความต้องการของตลาดที่ค่อนข้างชัดเจน

บล็อกเชน คืออะไร? ทำไมถึงมีความสำคัญต่อการลงทุน Cryptocurrency

เมื่อพูดถึงการลงทุนแบบ Cryptocurrency แล้ว ย่อมพ่วงมาพร้อมกับการใช้งานบล็อกเชน ดังนั้นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่คุณควรรู้ คือ บล็อกเชนมีหน้าที่อะไร? และเกี่ยวข้องกับคริปโตฯ ในรูปแบบไหน โดยเริ่มต้นจากความรู้ว่าบล็อกเชนเป็นหนึ่งในระบบที่คริปโตฯ จะทำงานร่วมด้วย หรืออธิบายง่าย ๆ ว่าเป็นหนึ่งในเครือข่ายด้านการเก็บข้อมูลรูปแบบหนึ่ง ที่ผู้ใช้งานทุกคนจะสามารถเข้าถึงและเข้าไปรับข้อมูลชุดเดียวกันได้ทั้งหมด

ซึ่งข้อมูลของสินทรัพย์ต่าง ๆ จะถูกเก็บไว้ภายในกล่อง แล้วเชื่อมโยงเครือข่ายที่เป็นลักษณะเหมือนห่วงโซ่ จึงถูกเรียกว่าบล็อกเชน โดยรูปแบบของการเก็บข้อมูลจะมาในลักษณะการแชร์ข้อมูลซึ่งกันและกัน จึงทำให้เกิดความโปร่งใสในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ หรือการถือครองสินทรัพย์ของบุคคล เพราะข้อมูลภายในจะแก้ไขได้ค่อนข้างยาก เช่น ถ้ามีการทำธุรกรรมเกิดขึ้นภายในบล็อกเชน ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมแบบใดก็ตาม ทุกข้อมูลจะถูกบันทึกลงบล็อก

โดยที่ไม่ว่าบุคคลใดก็จะไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลนี้ได้ เพราะทุกคนที่อยู่ร่วมกันภายในบล็อกเชนนั้น ๆ จะมีสำเนาหรือประวัติการทำธุรกรรมเหมือนกันทุกข้อมูล จึงยากต่อการจะปลอมแปลงข้อมูลใด ๆ ที่อยู่ภายในบล็อกเชน  เพราะเมื่อมีการปรับเปลี่ยนแล้วผู้คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในบล็อกเชนย่อมรู้ด้วย เรียกว่าใน 100% จะมีผู้ที่รู้เรื่องการปรับเปลี่ยนหรือปลอมแปลงข้อมูลที่สูงกว่า 51 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

Cryptocurrency แบบเหรียญหรือ Coin คืออะไร?

ความเป็นมา Cryptocurrency จะถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบด้วยกัน คือ การเป็นเหรียญหรือ Coin และการเป็น Token ที่จะค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร ทำงานกันคนละรูปแบบ สำหรับเหรียญจะมีลักษณะคล้ายกับสกุลเงินทั่วไป แต่จะมาในรูปแบบของสกุลเงินดิจิทัล ที่จะถูกสร้างขึ้นจากบุคคลหรือเครือข่ายของบล็อกเชนใดบล็อกเชหนึ่ง มีบทบาทสำหรับการแลกเปลี่ยนที่คล้ายกับเงินตราที่มีอยู่ตามปกติ เพียงแต่จะไม่ใช่ธนบัตรหรือเหรียญที่แตะต้องได้ เพราะจะอยู่ในรูปแบบของดิจิทัล พร้อมการมีโปรเจคต่าง ๆ เพื่อนำมาสู่การพัฒนาเครือข่ายในอนาคต

ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจจะทำให้ราคาของเหรียญขึ้น-ลงได้ตามสถานการณ์ คุณสมบัติของแต่ละเหรียญจะแตกต่างกัน ในเรื่องของเครือข่ายถ้ามีขนาดใหญ่ ปริมาณเหรียญ และประสิทธิภาพ รวมไปถึงราคาย่อมดีกว่า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องของปริมาณเหรียญในตลาด ประสิทธิภาพด้านการทำงานและอีกหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดราคาแตกต่างกันออกไป  ส่วนวัตถุประสงค์จะค่อนข้างคล้ายกับการสร้างสกุลเงินจริง คือ ด้านของการซื้อขายและแลกเปลี่ยนสินค้า งานบริการ และสิ่งของต่าง ๆ พร้อมการมีราคาที่ค่อนข้างผันผวน เนื่องจากจะต้องดูในเรื่องของความต้องการและปริมาณของเหรียญเป็นหลัก

สำหรับ Cryptocurrency ในลักษณะของ Token จะเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นจากเครือข่ายบล็อกเชนเช่นกัน แต่จะมาในรูปแบบของการไม่มีเครือข่ายหลักเป็นของตัวเอง และภายใน Token จะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกัน และถูกสร้างขึ้นด้วยการเขียน Smart Contract หรือสัญญาอัจฉริยะไว้เท่านั้น จึงเกิดเป็นตลาด DeFi เพราะ Token จะต้องถูกสร้างจาก dApp หรือ Decentralized Application

จึงทำให้ผู้ที่สร้าง Token สามารถที่จะเลือกเครือข่ายบล็อกเชนในการสร้าง Cryptocurrency เป็นของตัวเอง ดังเช่นเจ้าใหญ่ย่าง Ethereum  ที่ถือเป็นเครือข่ายหลักของทาง Binance Smart Chain สำหรับหน้าที่ของ Token จะมีลักษณะคล้ายกับเหรียญดิจิทัล คือ การซื้อขายแลกเปลี่ยนบริการและสินค้า แต่ยังคงมีคุณสมบัติเฉพาะที่ถูกสร้างขึ้นมาอีกหลายคุณสมบัติ

เรียนรู้เทรนด์ Cryptocurrency ของปี 2022

หนึ่งในเรื่องสำคัญที่ผู้ต้องการ Cryptocurrency จำเป็นต้องรู้ คือ แนวโน้มของเทรนด์ปี 2022 ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เนื่องมาจากเทคโนโลยีด้านบล็อกเชนและการลงทุน Cryptocurrency มีการพัฒนาไม่หยุดยั้งและเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก พร้อมการผลิตเทคโนโลยีเสริมอีกหลากหลายรูปแบบขึ้นมา จึงทำให้ผู้ที่ต้องการจะลงทุนด้านนี้ต้องเรียนรู้เร็วและตามกระแสให้ทัน เพื่อที่คุณจะรู้ทันการซื้อขายอย่างทันท่วงที โดยเทรนด์ของปี 2022 ตลาดคริปโตฯ คือ

1.การมาของธุรกิจ Wallet

เริ่มแรกที่ถือว่าเป็นเทรนด์มาแรงมากของการลงทุนภายในตลาด Cryptocurrency คือ เรื่องของธุรกิจ Wallet ที่มาแรงมาก เนื่องมาจากกระดานการลงทุนที่ใหญ่ขึ้นและมีโบรกเกอร์เข้ามาเป็นตัวกลาง พร้อมไปด้วยแพลตฟอร์มการซื้อขายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก แนวโน้มที่นักลงทุนจะเลือกใช้กระเป๋าเงินส่วนตัวจึงเพิ่มขึ้น เพราะเนื่องมาจาก wallet จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เข้าใช้งานแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อถึงกันได้ง่ายขึ้น

ดังเช่นการใช้ MetaMask ที่จะเชื่อมสู่ตลาด NFT , แพลตฟอร์ม DiFi และเครือข่าย Ethereum ได้อย่างครบถ้วน เทรนด์ของปี 2022 จะเกิดการแข่งขันที่ดุเดือดมาก พร้อมการพัฒนา Wallet เข้าสู่ระบบ Mobile แบบเต็มตัว เพื่อเข้าต่อสถานการณ์คริปโต Payment ให้มากขึ้น โดยเกิดขึ้นแล้วจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ภายในประเทศไทยเองก็เริ่มมีการพัฒนาในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

โดยเฉพาะกลุ่มที่เล่นเกมอาจจะมีการได้รับ Airdrop หรือเหรียญฟรีจากทางเกมและบริการต่าง ๆ ดังนั้นการเปิดเป็นแพลตฟอร์ม Wallet จึงเข้ามามีความสำคัญอย่างมาก โดยในปัจจุบัน MetaMask ถือว่ามีชื่อเสียงที่สุดในกลุ่มธุรกิจ Wallet รองลงมาคือ Phantom ของ Solana และ Kasta ที่เป็นเครือข่ายของทาง Influencer ด้านการเงินชื่อดังที่มีผู้เข้าใช้งานเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

2.เตรียมพร้อมสู่ Cross Chain

หนึ่งในเรื่องที่ถูกพูดถึงในด้านการใช้งานบล็อกเชนที่มีมากที่สุด คือ ความต้องการของนักลงทุนที่อยากให้เครือข่ายบล็อกเชนมีเพิ่มขึ้น หรือสามารถใช้ได้มากกว่า 2 เครือข่าย เพื่อทำการส่งข้อมูลซึ่งกันและกันที่ง่ายกว่าเดิม แต่ด้วยงานสถาปัตยกรรมของบล็อกเชน มีการถูกระบุอย่างชัดเจนว่าไม่มีผู้ใดจะมีอำนาจเป็นสื่อกลาง จึงทำให้เกิดข้อจำกัดด้านการสื่อสารแบบข้ามเครือข่ายที่มากพอสมควร

จึงทำให้เทคโนชื่อดังอย่าง Ethereum เริ่มหาวิธีแก้ไขปัญหา พร้อมการทำรหัส EIP หรือ Ethereum Improvement Proposal ในหลากหลายเวอร์ชั่นขึ้นมาใช้เพื่อแก้ปัญหานี้ แต่ในขณะเดียวกันกลับกลายเป็น Cosmos ที่อยู่บนเครือข่ายของ Terra กลับมีเทคโนโลยีที่สามารถทำลายกำแพงความช้า ความยุ่งยาก และความแพงของค่าทำธุรกรรม จนอาจจะกลายเป็น Cross Chain ในอนาคต ซึ่งเรื่องนี้ยังคงมีการพัฒนาและเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้นักลงทุนจับตามองเป็นพิเศษ

3.Metaverse มาแน่!

ไม่ว่าจะเป็นยุคนี้หรืออนาคต Metaverse ยังคงยืนอยู่ในระดับขั้นสูงบนวงการ Cryptocurrency เพราะ Metaverse เป็นหนึ่งในพื้นที่สำหรับการสร้างตัวตนเสมือนจริง ทื่ทุกบริการจะเข้าไปใช้งานพื้นที่ได้และทำงานร่วมกับเทคโนโลยี VR กับ AR อย่างลงตัว ซึ่งคริปโตฯ เองเป็นหนึ่งในตลาดที่สามารถขับเคลื่อนภายใน Metaverse ได้ราบรื่นมาก ทั้งยังเป็นการสร้างรูปแบบใหม่ของการลงทุนที่ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

ใช้ชีวิตติดเทรนด์การลงทุนใหม่ไปกับ ANANDA

ใช้ชีวิตติดเทรนด์ไปกับการลงทุน Cryptocurrency และเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ บนบล็อกเชน ที่สามารถจะทำให้การทำงาน, การเรียนรู้ และการอยู่อาศัยเป็นไปอย่างสะดวกมากขึ้นกับอนันดา ผู้สร้างสรรค์บ้านและคอนโดมิเนียมใจกลางกรุง รวมไปถึงทำเลดีในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อทำให้คุณได้รับความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ นำพาอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์เข้าสู่ระบบ VR หรือ 360 Virtual Tour ที่จะทำให้คุณสัมผัสประสบการณ์ของโครงการบ้านและคอนโดเสมือนจริง ที่คุณไม่จำเป็นต้องมาด้วยตัวเอง ก็สามารถที่จะพบประสบการณ์อันน่าประทับใจจากอนันดาได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

 

Related Posts

Leave a Comment

Scroll to Top