ในยุคที่คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อย่าง น้ำผักผลไม้สมูทตี้ ก็กลายเป็นตัวเลือกยอดฮิตที่หลายคนเลือกดื่มกันแทนขนมหวาน มีทั้งเลือกซื้อตามร้านทั่วไป ซูเปอร์มาเก็ต และทำเอง แต่หากย้อนกลับมาดู หากทานอะไรที่เป็นประจำ ในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจมีผลกระทบต่อร่างกายเช่นกัน ลองมาดูกันว่าการดื่ม สมูทตี้ ทุกวันดีจริงไหม? และควรดูแลสุขภาพอย่างไร?
หลายคนเชื่อว่าการดื่ม สมูทตี้ ทุกวันคือทางลัดสู่การมีสุขภาพดี เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระจากผลไม้และผัก แต่ข้อเท็จจริงคือ:
- น้ำตาลแฝง ในสมูทตี้โดยเฉพาะแบบขวดพร้อมดื่ม อาจมีน้ำตาลสูงถึง 20–30 กรัมต่อขวด ซึ่งเท่ากับขนมหวานหนึ่งชิ้น
- การดื่มสมูทตี้แทนอาหารมื้อหลัก อาจทำให้ร่างกายขาดโปรตีน ไขมันดี และพลังงานที่เพียงพอ
- หากดื่มแบบไม่เลือกสูตร หรือเติมวัตถุดิบเพิ่ม เช่น นมข้นหวาน ไอศกรีม หรือโยเกิร์ตหวาน ก็ยิ่งลดทอนคุณค่าทางสุขภาพลง
ดังนั้น ดื่มทุกวันได้ แต่ต้อง ‘เลือกให้เป็น’
รู้หรือไม่? สมูทตี้ ที่มี ‘กล้วย’ อาจไม่เฮลท์ตี้เสมอไป กล้วยเป็นผลไม้ยอดนิยมในสมูทตี้เพราะให้ความหวานและเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม แต่กล้วย 1 ลูกมีน้ำตาลธรรมชาติสูงถึง 15 กรัม และค่าดัชนีน้ำตาล (GI) สูง หากใส่กล้วยเป็นหลักทุกวัน โดยไม่คุมสัดส่วน อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งและไม่เหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหรือผู้ป่วยเบาหวาน
เลือก สมูทตี้ ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องดูอะไรบ้าง?
- เลือกสูตรที่ไม่มีน้ำตาลเติม (No Added Sugar) สัดส่วนผักมากกว่าผลไม้ ยิ่งดี (เช่น 70:30)
2. เลือกร้านที่มีมาตรฐานความสะอาด เพื่อสุขอนามัยที่ดี
3. ทำกินเอง (อาจจะ) ดีที่สุด ใช้ผลไม้สด ผักสด ปั่นสดใหม่ ควบคุมปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่ได้
4. เสริมด้วยโปรตีนหรือไขมันดี ใส่เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย หรือเนยถั่ว เพื่อให้อิ่มนานขึ้นและสมดุลทางโภชนาการ
ขอบคุณที่มาจาก ThaiHealth Official