มะพร้าว (coconut) คือผลของต้นมะพร้าว ซึ่งเป็นไม้ปาล์มสูงโดยเจอมากในพื้นที่เขตร้อน อย่างบ้านเรา อย่างเช่น จังหวัดภาคใต้ทั้งสุราษฎร์ธานี กระบี่ และจังหวัดทางฝั่งอันดามัน เช่น ระนอง หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือฝั่งตะวันออก เช่น ระยอง ก็มีปลูกมะพร้าวน้ำสำหรับเก็บน้ำอร่อยๆ ประเภทนมะพร้าวน้ำหรือมะพร้าวกะทิ
ส่วนสายพันธุ์ที่คนนิยมบอกว่า ‘หวานกลมกล่อม’ มักเป็นสายพันธุ์พื้นบ้าน หรือ ‘มะพร้าวหัวชา’ ที่คนเรานิยมเลือกทำกะทิ เพราะน้ำหวานและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
น้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, แคลเซียม รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง และยังช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกายได้ดี เพราะมีอิเล็กโทรไลต์ที่คล้ายกับเครื่องดื่มเกลือแร่แต่มีน้ำตาลน้อยกว่า นอกจากนี้ น้ำมะพร้าวยังช่วยเรื่องระบบขับถ่าย, เสริมความชุ่มชื้นให้ผิว, ลดความอ่อนเพลีย และช่วยรักษาระดับน้ำในร่างกายให้สมดุล
แต่การดื่มน้ำมะพร้าวก็มีข้อควรรู้ โดยเฉพาะ ‘ปริมาณ’ ที่เหมาะสมต่อวัน โดยทั่วไป แนะนำให้ดื่มไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 250–300 มิลลิลิตร เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลธรรมชาติมากเกินไป ถึงแม้จะเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ แต่หากดื่มในปริมาณมากต่อเนื่องทุกวัน อาจกระทบกับระดับน้ำตาลในเลือดได้เช่นกัน
กลุ่มคนที่ควรระวังในการดื่มน้ำมะพร้าว ได้แก่
- ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง เพราะน้ำมะพร้าวมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งอาจสะสมในร่างกายมากเกินไป
- ผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ควรจำกัดปริมาณและเลือกดื่มแบบไม่เติมน้ำตาลเพิ่ม
- คนที่ใช้ยาขับปัสสาวะหรือยาลดความดันบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ เพราะน้ำมะพร้าวมีผลต่อการปรับระดับเกลือแร่ในร่างกาย
การดื่มในปริมาณพอเหมาะ พร้อมเลือกน้ำมะพร้าวแท้ไม่เติมน้ำตาล จะช่วยให้ได้รับประโยชน์เต็มที่โดยไม่เสี่ยงกับผลข้างเคียงที่ไม่จำเป็น
นอกจากประโยชน์ด้านสุขภาพแล้ว เพื่อนๆ รู้หรือเปล่าว่า ต้นมะพร้าว ยังถือเป็นหนึ่งในพืชที่มีความสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดีในระดับที่น่าสนใจ แม้จะไม่เทียบเท่ากับต้นไม้ในป่าดงดิบ แต่ต้นมะพร้าวก็มีคุณค่าในเชิง “เกษตรยั่งยืน” อย่างแท้จริง โดยเฉลี่ยแล้ว ต้นมะพร้าว 1 ต้นสามารถดูดซับคาร์บอนได้ประมาณ 37–56 กิโลกรัมต่อปี ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และขนาดของต้น (เช่น มะพร้าวสูงหรือมะพร้าวเตี้ย)
บางรายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า ต้นไม้ประเภทไม้ยืนต้นอย่างมะพร้าวมีบทบาทในการเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้กลายเป็นสารอินทรีย์ ซึ่งสะสมอยู่ทั้งในลำต้น ระบบราก และดินใต้ต้นไม้ ทำให้เกิดระบบนิเวศที่สมดุลและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระยะยาวได้จริง
ถ้ายิ่งนำมะพร้าวไปปลูกในระบบเกษตรผสมผสาน เช่น การปลูกพืชล้มลุกหรือพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ใต้ร่มมะพร้าว นอกจากจะเพิ่มรายได้และใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการดูดซับคาร์บอนต่อพื้นที่ได้มากขึ้นด้วย เพราะเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์หลายมิติควบคู่กัน
ข้อมูลจาก https://arccjournals.com/journal/agricultural-reviews/R-2553