เปลี่ยนมือถือ Trade ใหม่ทุกปี มีผลต่อโลกร้อนหรือไม่?

สำหรับคนรุ่นใหม่อย่างเราๆ ที่รักเทคโนโลยี การได้ถือ ‘สมาร์ทโฟนงรุ่นล่าสุดคือความฟินที่ปฏิเสธไม่ได้จริงมั้ย? ซึ่งตลาดมือถือก็เข้าใจจุดนี้ดี ทั้งค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง iPhone และ Samsung ต่างก็แข่งกันปล่อยรุ่นใหม่ออกมาแทบทุกปี พร้อมด้วยโปรโมชัน ‘Trade-in’ หรือการนำเครื่องเก่ามาแลกเป็นส่วนลดซื้อเครื่องใหม่ ทำให้มันดูเป็นทางเลือกที่ ‘คุ้มค่า’ สำหรับกระเป๋าสตางค์ของเรา

แต่ลองมองลึกไปกว่าราคาที่ลดลง การเปลี่ยนมือถือใหม่ทุกปีอาจทำให้บัญชีเงินฝากของเราไม่ขาดดุล แต่มันกำลังส่งผลกระทบต่อบัญชี ‘สิ่งแวดล้อม’ ของโลกอย่างมหาศาลอยู่หรือเปล่า? ลองมาดูกัน

ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการใช้งานและ Trade-in เครื่องเก่า ลองย้อนกลับไปดูที่จุดเริ่มต้นที่เริ่มตั้งแต่ กระบวนการผลิตสมาร์ทโฟน ที่ปล่อยคาร์บอนและใช้ทรัพยากรมากที่สุดอย่างน่าตกใจ และนี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามไป วงจรการผลิตสมาร์ทโฟนนั้นกินพลังงานและทรัพยากรโลกอย่างหนักหน่วงตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนี้

  1. การสกัดวัตถุดิบและแร่ธาตุหายาก สมาร์ทโฟนต้องใช้แร่ธาตุและโลหะหายากมากกว่า 30 ชนิด เช่น ทองคำ, โคบอลต์ และ ลิเธียม ซึ่งกระบวนการทำเหมืองเพื่อสกัดแร่เหล่านี้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ทั้งการทำลายระบบนิเวศ การปนเปื้อนของสารเคมี และใช้พลังงานมหาศาล
  2. การผลิตชิ้นส่วนและการประกอบ การผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ชิปเซ็ต, แผงวงจร, จอแสดงผล และแบตเตอรี่ เป็นขั้นตอนที่ใช้พลังงานเข้มข้นอย่างยิ่ง ทั้งการใช้ความร้อน สารเคมี และน้ำจำนวนมาก พลังงานในโรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่มักมาจากแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งยิ่งเพิ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  3. การขนส่งและการจัดการสต็อก การขนส่งตั้งแต่ชิ้นส่วนจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปใช้เชื้อเพลิงอย่างหนัก การที่รุ่นใหม่ออกมาเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้วงจรการขนส่งและการผลิตดำเนินไปอย่างไม่หยุดหย่อนเท่านั้น

ดังนั้น การตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ เท่ากับเป็นการกระตุ้นให้วงจรการผลิตที่ใช้พลังงานมหาศาลนี้ดำเนินต่อไป การยืดอายุการใช้งานสมาร์ทโฟนให้นานที่สุดต่างหาก คือวิธีที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจนที่สุด

เมื่อถึงเวลาที่เราต้องปล่อยเครื่องเก่าไป การตัดสินใจว่าจะ Trade-in หรือ Recycle ก็เป็นอีกหนึ่งทางแยกสำคัญ

  • Trade-in (การแลกเปลี่ยนเพื่อขายต่อ) เครื่องที่ Trade-in เข้าไปจะถูกส่งต่อไปยังตลาด ‘Refurbished’ หรือ ตลาดมือสอง
    ข้อดีต่อโลก: นี่คือทางเลือกที่ดีกว่า การทิ้งเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างแน่นอน เพราะเป็นการยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องผลิตเครื่องใหม่ขึ้นมาทดแทนในตลาดมือสองทันที 
  • การ Recycle คือการนำเครื่องเก่าที่อาจจะเสียหรือหมดสภาพแล้ว ไปถอดแยกชิ้นส่วนเพื่อสกัดเอาแร่ธาตุและโลหะมีค่ากลับมาใช้ใหม่
    ข้อดีต่อโลก: ช่วยลดความจำเป็นในการทำเหมืองแร่ใหม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ก่อมลพิษและใช้พลังงานสูงสุด นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-waste) ซึ่งเต็มไปด้วยสารพิษอันตราย

ข้อสรุป: Trade-in เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าถ้ามือถือเครื่องเก่ายังใช้งานได้ดี เพราะเป็นการยืดอายุการใช้งานโดยตรง แต่ถ้าเครื่องพังจนซ่อมไม่คุ้มแล้ว การนำไปรีไซเคิลผ่านโครงการที่เชื่อถือได้คือทางออกเดียวที่รับผิดชอบต่อโลก

ถ้าคุณคือสายอัปเกรดที่เปลี่ยน สมาร์ทโฟน ใหม่ทุกปี นี่คือ 4 แนวทางปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

  1. ยืดอายุเครื่องเก่าเพื่อ Reuse (ใช้ซ้ำ) ก่อน Trade-in ต้องทำให้เครื่องอยู่ในสภาพดีที่สุด (เช่น เปลี่ยนแบตฯ) เพื่อให้มันมีอายุใช้งานที่ยาวนานกับเจ้าของคนต่อไป เพราะ Reuse คือการลดคาร์บอนจากการผลิตใหม่ที่ดีที่สุด
  2. เลือก Trade-in/Recycle ที่ได้มาตรฐาน ใช้บริการ Trade-in หรือโครงการ Recycle ของบริษัทผู้ผลิตโดยตรง เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องเก่าจะถูกจัดการอย่างรับผิดชอบ 
  3. สนับสนุนแบรนด์ที่ยั่งยืน เลือกซื้อจากแบรนด์ที่เปิดเผยข้อมูลและมีเป้าหมายด้านความยั่งยืนชัดเจน เช่น การใช้แร่ธาตุรีไซเคิล การใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิต 
  4. ชะลอให้ได้นานที่สุด แม้จะชอบอัปเกรด แต่การยืดอายุการใช้งานมือถือจาก 2 ปี เป็น 3-5 ปี สามารถลดการปล่อยคาร์บอนจากการผลิตลงได้เกือบครึ่ง การข้ามวงจรการผลิตที่ใช้พลังงานมหาศาลไปหนึ่งครั้ง

 

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top