ปักหมุดจุดเช็คอินไฟสวย กรุงเทพฯ ฉบับตัวมัม

Highlights

  • มัดรวมแลนด์มาร์กแสงไฟทำถึง: คัดสรรจุดถ่ายรูปคริสต์มาสและปีใหม่ระดับท็อปในโซนใจกลางเมือง และเปิดวาร์ป Hidden Gems ที่ถ่ายยังไงก็ดูแพง
  • ช่วงเวลาทองคำและเทคนิคจัดแสง แนะนำให้ใช้ช่วง Twilight Hour เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด พร้อมสอนเทคนิคการใช้ โบเก้ และการจัดองค์ประกอบภาพแบบมีเลเยอร์เพื่อให้ภาพดูมีมิติ
  • ถ่ายยังไงให้ชิคแบบไม่ต้องพยายาม เน้นการจัดมุมแบบ Candid Look และการเน้นรายละเอียดเพื่อสร้างภาพที่ดูเป็นธรรมชาติ มีเสน่ห์ และเรียกยอดไลก์บนโซเชียลมีเดีย

ใกล้สิ้นปีทีไร กรุงเทพฯ ก็สว่างไสวด้วยไฟประดับทุกพื้นที่ และสำหรับสายคอนเทนต์ตัวแม่ ตัวมัม ที่เตรียมกล้อง เตรียมชุด เพื่อลุยถ่ายภาพไฟประดับช่วงเทศกาล วันนี้เราได้คัดสรรจุดเช็กอินแสงไฟคริสต์มาสและปีใหม่ที่ ‘ทำถึง’ ในกรุงเทพฯ มาให้แล้ว ถ่ายยังไงก็ดูแพง ดูอินเตอร์ และเรียกยอดไลก์ รับรองว่าทุกมุมคือพร็อพชั้นดีที่อัปเกรดฟีด อินสตาแกรม ของเพื่อน ๆ กลายเป็นผู้นำเทรนด์

โซนใจกลางเมืองคือแหล่งรวมของเทศกาลแสงไฟที่แต่ละปีต่างก็งัดไม้เด็ดมาประชันความอลังการ การันตีว่าเดินยังไงก็เจอแต่จุดที่ถ่ายแล้วปัง ถ่ายแล้วรอด!
เริ่มจากพื้นที่ Ratchaprasong (ราชประสงค์) ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ที่นี่คือศูนย์รวมของห้างสรรพสินค้าชั้นนำและโรงแรมหรูที่พร้อมใจกันประดับไฟอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเทศกาลอย่างแท้จริง

  • CentralWorld: ต้นคริสต์มาสยักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาล และลานกิจกรรมที่ประดับประดาด้วยไฟสุดอลังการในทุกๆ ปี การออกแบบมักจะเปลี่ยนธีมไปตามเทรนด์โลก ทำให้การมาถ่ายรูปที่นี่ไม่เคยซ้ำกัน
  • Gaysorn Village: การตกแต่งที่นี่มักจะเน้นความหรูหรา วิจิตร และมีดีไซน์ที่ละเอียดอ่อน ถ่ายรูปออกมาจะได้ฟีลลิ่งแบบยุโรป ดูแพงและสง่างามมาก
  • Siam Paragon & Siam Center พื้นที่รอบสยามพารากอนและสยามเซ็นเตอร์ก็เป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาด ด้วยการตกแต่งที่ทันสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทำให้ได้ภาพที่มีความเก๋ไก๋และเป็นตัวเอง

เลยไปฝั่งพร้อมพงษ์อย่าง The EmQuartier & The Emporium มหานครแห่งแฟชั่นและศิลปะ โซนสุขุมวิทนี้ขึ้นชื่อเรื่องการตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างแฟชั่นชั้นสูงกับงานศิลปะสมัยใหม่ ทำให้ทุกมุมของห้างฯ กลายเป็นแกลเลอรีให้เราได้ลั่นชัตเตอร์

  • The EmQuartier: บริเวณด้านหน้าและภายในมีการจัดแสดงไฟและพร็อพต่างๆ ที่เน้นความมีสไตล์ ถ่ายรูปกับบันไดเลื่อนหรือมุมคาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยไฟก็ให้ลุคที่ดูชิคและมีรสนิยม

นอกเหนือจากโซนหลักๆ แล้ว ยังมีพื้นที่สร้างสรรค์ขนาดเล็กและแลนด์มาร์กใหม่ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ และมักจะมีการตกแต่งไฟที่แตกต่าง เน้นดีไซน์และบรรยากาศที่อบอุ่นกว่า ทำให้ได้ภาพที่ดูเป็นกันเองและมีเอกลักษณ์กว่าเดิม

One Bangkok แลนด์มาร์กใหม่ที่สเกลใหญ่ระดับประเทศ
พื้นที่โครงการ One Bangkok ก็มักจะมีการจัดแสดงไฟและงานศิลปะนอกอาคารที่เป็นกระแส และด้วยความที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ระดับประเทศ การตกแต่งจึงมักจะเน้นความยิ่งใหญ่และล้ำสมัย ถ่ายยังไงก็ดูเป็นภาพจากเมืองใหญ่ในอนาคต

The Commons Saladaeng: ความอบอุ่นในซอยลับ
ถ้าเบื่อความวุ่นวายของห้างใหญ่ ลองหลบมาที่ The Commons Saladaeng คอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็กที่เน้นความเก๋ไก๋และบรรยากาศเหมือนอยู่สวนหลังบ้าน การประดับไฟที่นี่จะเน้นความอบอุ่น โรแมนติก

ตัวแม่ Gen C ต้องรู้จักใช้แสงไฟประดับให้เป็นประโยชน์สูงสุด! สิ่งแรกที่จะแชร์ไกด์ไลน์ก็คือ

  • การตามล่า ‘Blue Hour’ หรือช่วงเวลาทไวไลท์ (ประมาณ 18:00–19:00 น.) เพราะเป็นช่วงที่แสงไฟและแสงธรรมชาติทำงานร่วมกันได้สวยที่สุด
  • ต่อมาคือการสร้างเอฟเฟกต์ ‘โบเก้’ (วงกลมไฟเบลอๆ) เพียงแค่ยืนห่างจากไฟด้านหลังแล้วถ่ายด้วยโหมด Portrait หรือใช้เลนส์รูรับแสงกว้างๆ ภาพจะดูละมุนและโรแมนติกขึ้นทันที

อย่าลืมจัดองค์ประกอบภาพให้มี เลเยอร์ โดยการถ่ายผ่านฉากหน้าเล็ก ๆ เช่น กิ่งไม้หรือกระจกสะท้อน เพื่อเพิ่มมิติและความลึกให้ภาพ และเคล็ดลับสุดท้ายที่ทำให้ภาพดูไม่เกร็งคือการจัดมุมแบบ Candid Look ทำเหมือนกำลังเดิน กำลังเหม่อ หรือมองออกไปชมไฟ แค่นี้ก็ได้ภาพที่ดูชิค มีเรื่องราว และสมฐานะตัวมัมแล้ว

 

 

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top