ถ้าจะพูดถึงเทศกาลภาพยนตร์ระดับนานาชาติ หลายคนอาจจะนึกถึงเทศกาลดังๆ อย่าง Cannes, Venice หรือ Berlin แต่ในอดีต ‘กรุงเทพฯ’ ก็เคยมีเทศกาลภาพยนตร์ที่เป็นหมุดหมายสำคัญของคนทำหนังทั่วโลกเช่นกัน นั่นคือ BKKIFF หรือ Bangkok International Film Festival ซึ่งถูกจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2003 และจัดต่อเนื่องมาจนถึงปี 2008 ก่อนจะเงียบหายไปเป็นเวลานานถึง 16 ปีเต็มๆ
การกลับมาของ BKKIFF ในปี 2025 นี้ ถือเป็นมากกว่าแค่การจัดงาน แต่เป็นการกลับมาเพื่อฟื้นคืนชีพวงการภาพยนตร์ไทยและภูมิภาคให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และจะสร้างพลังของ BKKIFF ครั้งใหม่?
- สร้างโอกาสทางธุรกิจและ Soft Power BKKIFF ไม่ได้เป็นแค่ที่สำหรับฉายหนังเท่านั้น แต่ยังเป็น ‘ตลาดซื้อขายภาพยนตร์’ (Film Market) ที่เปิดโอกาสให้ผู้สร้าง, นักลงทุน และผู้จัดจำหน่ายจากทั่วโลกได้มาเจอกัน งานนี้จึงมีเป้าหมายที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และใช้ภาพยนตร์เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งออก Soft Power ของไทยไปสู่สายตาชาวโลก
- เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่และคนทำหนังอิสระ เทศกาลนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นเวทีให้คนทำหนังไทยรุ่นใหม่และหนังอิสระได้มีโอกาสแสดงผลงาน มีการจัดเวทีประกวดภาพยนตร์สั้นและภาพยนตร์สารคดี
- เป็นแหล่งรวมงานคุณภาพจากทั่วโลก แน่นอนว่าไฮไลต์สำคัญคือการได้ชมภาพยนตร์คุณภาพจากทั่วทุกมุมโลก โดยคาดว่าจะมีหนังมากกว่า 200 เรื่องจากกว่า 40 ประเทศมาฉายในเทศกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนังยาว, หนังสั้น, สารคดี หรือแอนิเมชัน หนึ่งในนั้นคือ ธี่หยด 3 ภาพยนตร์ไทยที่จะฉายรอบ World Premiere ในงานนี้ด้วยเช่นกัน
งาน BKKIFF 2025 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 15 ตุลาคม 2565 ณ โรงภาพยนตร์ชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น Major Cineplex, SF Cinema, House Samyan และ Lido Connect ซึ่งเป็นแหล่งรวมคนรักหนังที่เดินทางได้สะดวกสบาย
เมื่อมีหนังมากกว่า 200 เรื่องให้เลือกดู การจัดตารางคือสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อไม่ให้พลาดหนังที่เล็งไว้ เพราะบางเรื่องอาจมีรอบฉายแค่ไม่กี่รอบเท่านั้น นี่คือเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ วางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ทำ List หนังที่สนใจ ก่อนที่เทศกาลจะเริ่มสัก 1-2 สัปดาห์ ทางผู้จัดมักจะประกาศรายชื่อภาพยนตร์ที่เข้าร่วมทั้งหมด สิ่งที่เพื่อน ๆ ต้องทำคือ เข้าไปใน Facebook Page ของ BKKIFF Official (https://www.facebook.com/bkkiffofficial) แล้วไล่ดูว่ามีเรื่องไหนที่น่าสนใจบ้าง อาจจะแบ่งเป็น 3 หมวดหมู่หลักๆ คือ Must-Watch หนังที่ต้องดูให้ได้, Good to See หนังที่อยากดู และ In Case of Emergency หนังสำรองเอาไว้แทรกในตาราง
- เช็กวันที่และเวลาฉายให้ละเอียด: เมื่อประกาศตารางฉายออกมาแล้ว ให้รีบจับคู่รายชื่อหนังที่ลิสต์ไว้กับรอบฉายทันที แต่ไม่ควรใส่หนังแน่นเกินไปในแต่ละวัน
- ตรวจสอบเส้นทางและจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า การจองตั๋วออนไลน์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะบางเรื่องอาจเป็นที่ต้องการสูงและตั๋วอาจจะหมดเร็วมาก
ใช้ตัวช่วยจากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน บางเทศกาลจะมีแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ช่วยให้เราวางแผนตารางดูหนังได้ง่ายขึ้น
ถ้าจะไปดูหนังในเทศกาล การเตรียมตัวก่อนเข้าโรงนั้นสำคัญไม่แพ้การวางแผน เพราะรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจทำให้ประสบการณ์การดูหนังของเพื่อน ๆ ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
สิ่งแรกที่ต้องเตรียมคือ ตั๋วหนัง ตรวจสอบว่ามีตั๋วในมือถือหรือพิมพ์ออกมาเรียบร้อยแล้ว และควรไปถึงโรงก่อนเวลาฉายจริงอย่างน้อย 15-30 นาที เพราะนอกจากจะช่วยให้เพื่อน ๆ ไม่ต้องรีบร้อนแล้ว ยังมีเวลาเดินเล่นหรือหาซื้อป๊อปคอร์นอีกด้วย
ชุดที่ใส่ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่มักจะปรับแอร์ค่อนข้างเย็น เสื้อคลุมหรือผ้าพันคอ จึงเป็นของใช้จำเป็นที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ รู้สึกสบายตัวตลอดการดูหนัง นอกจากนี้ การใช้มือถือเช็กตารางหรือถ่ายรูปในงานอาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว พาวเวอร์แบงก์ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
สำหรับคอหนังตัวจริง การพก สมุดโน้ตและปากกา ไปด้วย จะช่วยให้สามารถจดบันทึกความรู้สึกหรือข้อคิดที่ได้จากหนังแต่ละเรื่อง เพื่อนำกลับมาทบทวนในภายหลังได้ด้วย
สุดท้ายนี้ อย่าลืมกฎเหล็กที่สำคัญที่สุดของเทศกาลภาพยนตร์ นั่นคือ ห้ามถ่ายรูปและวิดีโอ ภายในโรงภาพยนตร์โดยเด็ดขาด เพราะการทำผิดกฎนี้อาจทำให้เพื่อน ๆ ถูกเชิญออกจากโรงได้เลย