การเลี้ยงสัตว์ในบ้านสมัยนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สัตว์ประเภทเดียวอีกต่อไป หลายคนหลงใหลในความน่ารักของทั้ง ‘นก’ และ ‘หมา’ จนเลือกที่จะเลี้ยงไว้ในบ้านเดียวกัน ซึ่งแม้จะดูน่ารักและท้าทาย แต่การให้สัตว์สองประเภทที่มีธรรมชาติแตกต่างกันสุดขั้วอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย จำเป็นต้องมีการวางแผนและความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และต้องเริ่มต้นดูแลอย่างไร ให้สัตว์ทั้งสองประเภทอยู่ร่วมกันได้ มาดูกัน
สิ่งแรกที่เพื่อนๆ ต้องเข้าใจก่อนคือธรรมชาติของทั้งสองสายพันธุ์ ‘สุนัข’ เป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณนักล่าโดยกำเนิด โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีพลังงานสูงหรือเคยผ่านการฝึกให้จับวัตถุเคลื่อนไหว เมื่อพวกมันเห็นนกบินหรือขยับตัวเร็วๆ ความรู้สึกอยากไล่จับมักจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ในทางตรงกันข้าม ‘นก’ เป็นสัตว์เปราะบาง ทั้งร่างกายเล็ก อ่อนไหว และตกใจง่าย เสียงเห่า การเคลื่อนไหวเร็ว หรือการเพ่งมองจากหมา อาจทำให้นกรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก จนเกิดความเครียดเรื้อรังได้
การทำให้ทั้งสองอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัยจึงต้องเริ่มจากการแบ่งโซนชัดเจน กรงนกควรอยู่ในห้องที่สุนัขเข้าไม่ถึง หรือมีสิ่งกั้น เช่น ประตูกระจก หรือคอกกั้นโปร่งใส ที่ทำให้มองเห็นกันได้ แต่ไม่สามารถสัมผัสกันโดยตรงได้ หากเป็นบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ควรติดตั้งกรงไว้ในระดับสูงที่สุนัขไม่สามารถกระโดดหรือปีนไปถึงได้ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุโดยไม่ตั้งใจ สรุปง่าย ๆ คือ
- ตั้งกรงนกในห้องแยกหรือมุมที่หมาเข้าถึงไม่ได้
- ใช้ประตูกั้นหรือกรงแขวนสูง
- ห้ามปล่อยนกออกจากกรงตอนหมาอยู่ด้วย
เมื่อจัดพื้นที่เรียบร้อยแล้ว การฝึกให้ทั้งนกและหมา ‘ทำความรู้จักกันแบบปลอดภัย’ ก็เป็นอีกขั้นตอนสำคัญ
เริ่มต้นจากการให้หมาเห็นนกในกรงจากระยะไกลก่อน โดยให้หมาอยู่ในสายจูง เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหว เมื่อทั้งสองสามารถอยู่ในสายตากันโดยไม่แสดงพฤติกรรมหวาดกลัวหรือก้าวร้าว ค่อย ๆ ขยับให้ใกล้ขึ้น และเพิ่มระยะเวลาที่พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่าลืมให้รางวัลหรือชมเชยเมื่อพวกเขาทำพฤติกรรมดี เพื่อสร้างความรู้สึกเชิงบวกให้ทั้งคู่
สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าให้พวกเขาอยู่ร่วมกันแบบไร้การควบคุม ไม่ควรปล่อยนกออกจากกรงตอนที่หมาอยู่ด้วย และในทางกลับกันก็ไม่ควรปล่อยหมาเดินเล่นใกล้กรงนกแบบไม่มีใครคุม เพราะแม้จะเชื่องแค่ไหน ก็ไม่มีใครสามารถรับประกันพฤติกรรมแบบฉับพลันของสัตว์ได้เต็มร้อย