ทุกวันนี้ชีวิตเราถูกขับเคลื่อนด้วยหน้าจอ ไม่ว่าจะตื่นมาก็หยิบมือถือ นั่งทำงานก็อยู่กับคอมพิวเตอร์ พอเลิกงานก็ยังไม่วางแท็บเล็ตหรือไถโซเชียลต่อแบบไม่หยุดพัก สมองแทบไม่ได้รีเซ็ตเลยทั้งวัน เหมือนโลกทั้งใบหมุนอยู่บนปลายนิ้วโดยลืมไปว่าใจเราต้องการพักบ้างเหมือนกัน แล้วแบบนี้จะไหวอีกนานแค่ไหน? ถึงเวลาต้อง ‘หลีกจอเพื่อใจ’ กันสักที ด้วยการทำ Digital Detox แบบสนุก ๆ ไม่จำเป็นต้องหนีเมืองหรือวางมือถือทิ้งไปตลอดชีวิต แต่แค่หาเวลาบางช่วงให้ตัวเองได้หยุดพักจากคลื่นข้อมูลที่ถาโถมไม่หยุดบ้าง
หลายคนอาจไม่ทันรู้ตัวว่าอยู่ในโหมดต้องการดีท็อกซ์ดิจิทัลแล้ว ลองสังเกตดูง่าย ๆ ว่าถ้าเริ่มรู้สึกเบลอ ๆ เหมือนสมองถูกใช้เกินลิมิต อาการปวดตา ปวดคอ หงุดหงิดง่ายเริ่มมาเยือน หรือเริ่มรู้สึกไม่พอใจกับชีวิตตัวเองหลังจากไถโซเชียลไม่กี่นาที รวมถึงนิสัยเช็กมือถือทุกไม่กี่นาทีแบบไม่รู้ตัว นี่แหละคือสัญญาณชัด ๆ ว่าถึงเวลาแล้วที่ร่างกายและจิตใจจะต้องทำ โซเชียลดีท็อกซ์ สักรอบ การติดหน้าจอไม่ได้แค่ดูดเวลาจากชีวิตจริง แต่ยังบั่นทอนสุขภาพทั้งกายและใจแบบเงียบ ๆ ยิ่งใช้เวลากับโลกออนไลน์มากเท่าไร ความเชื่อมโยงกับโลกจริงก็เริ่มจางลงเท่านั้น
เพื่อให้เห็นภาพชัด ลองเช็กตัวเองกับ ‘ลิสต์สัญญาณที่ร่างกายต้องการดีท็อกซ์’ ต่อไปนี้:
- รู้สึกเบื่อหน่าย เครียด หงุดหงิดโดยไม่รู้สาเหตุหลังเลื่อนหน้าจอ
- เช็กมือถือแบบอัตโนมัติแม้ไม่มีแจ้งเตือน
- สมองล้า ไม่มีสมาธิ ทำงานไม่ไหลลื่น
- เปรียบเทียบชีวิตกับคนอื่นในโลกออนไลน์จนหมดกำลังใจ
- หลับยาก หรือนอนไม่ลึกเพราะเล่นมือถือก่อนนอน
ถ้ามากกว่า 3 ข้อขึ้นไป บอกเลยว่าถึงเวลา Digital Detox แบบจริงจังแล้วล่ะ
ข่าวดีคือไม่ต้องเบื่อเวลาไม่แตะหน้าจอ เพราะโลกของความบันเทิงแบบออฟไลน์ยังมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะ ลองดูไอเดียเหล่านี้แล้วจัดตารางว่างไว้ได้เลย
- อ่านหนังสือเล่มโปรด ไม่ว่าจะนิยาย ปรัชญา หรือ How-to การได้ดื่มด่ำกับตัวหนังสือจริง ๆ ช่วยให้สมองสงบและจิตใจผ่อนคลาย
- ปั้นงาน DIY งานฝีมือเล็ก ๆ อย่างวาดรูป ถักไหมพรม ทำสบู่ เป็น กิจกรรมบำบัด ชั้นดี แถมยังสนุกด้วย
- เล่นบอร์ดเกมกับเพื่อน คืนชีวิตให้มิตรภาพในโลกจริง หัวเราะลั่นบ้านได้โดยไม่ต้องโพสต์สตอรี่
- ทำอาหารแบบจัดเต็ม เข้าครัวแล้วลองทำเมนูใหม่ ๆ คือการใช้เวลาอย่างมีคุณภาพและช่วยฝึกสมาธิได้ด้วย
- เล่นดนตรีหรือฟังเพลงสด ใครเล่นดนตรีได้ก็หยิบขึ้นมาเลย ส่วนใครเล่นไม่เป็น ก็ไปหาคาเฟ่ดนตรีสดให้ใจฟินแบบ unplugged
- ปลูกต้นไม้ กิจกรรมที่ช่วยเชื่อมโยงเรากับธรรมชาติ ได้ทั้งความเขียวและความสงบ
- เขียนไดอารี่หรือจดบันทึก การเขียนช่วยจัดระเบียบความคิด และลดความเครียดจากโลกออนไลน์ได้เยอะมาก
- ออกกำลังกายแบบ Flow โยคะ เต้น หรือเวทเบา ๆ ช่วยรีเซ็ตระบบพลังงานในร่างกาย
- ออกเดินเล่น/เดินป่า ไปสัมผัสโลกจริง สูดอากาศธรรมชาติให้เต็มปอด ห่างไกลคลื่นสัญญาณแบบจงใจ
- ลองกิจกรรมใหม่แบบสุ่ม เขียนชื่อกิจกรรมลงกระดาษ แล้วจับฉลากทำแบบไม่ต้องคิดมาก สนุกและได้เปิดประสบการณ์
Digital Detox ไม่ใช่การลงโทษตัวเองด้วยการแยกขาดจากโลกออนไลน์ แต่เป็นการเลือกที่จะหยุดพักบ้างเพื่อรักษาสมดุลชีวิต และนี่คือสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อเริ่มปล่อยมือจากหน้าจอ
- มีเวลาทำความรู้จักตัวเองมากขึ้น
- สมองปลอดโปร่ง ไม่วุ่นวาย
- มีเวลาคุยกับคนรอบตัวแบบไม่ต้องแชต
- ความคิดสร้างสรรค์กลับมา
- ใจนิ่งขึ้น หลับดีขึ้น รู้สึกสุขแบบไม่ต้องโพสต์
เริ่มจากน้อย ๆ อย่างการจัดเวลา โซเชียลดีท็อกซ์ แค่ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน แล้วค่อยขยายเป็นวันหยุดแบบไม่แตะจอ หรือวางแพลนทุกสัปดาห์ว่าจะมีเวลาให้ตัวเองเท่าไหร่ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเติมพลังใจให้เต็มถัง