10 อันดับ! อุปกรณ์ Smart Home Device ที่ควรมีไว้ในบ้าน ในปี 2022

อันดับ 10: Ecobee อุปกรณ์ Smart Home ตรวจวัดอุณหภูมิภายในบ้าน

อุปกรณ์ Smart Home เครื่องวัดอุหภูมิภายในบ้านอัจฉริยะหรือ Smart Thermostat ตัวนี้มีความสามารถในการตรวจวัดอุณภูมิภายในบ้านและเรียกดูสภาพอากาศภายนอกบ้านได้ด้วย โดยเราสามารถสั่งงานเชื่อมไปยังเครื่องปรับอากาศเพื่อปรับอุณหภูมิของห้องให้เหมาะสมตามสภาพอากาศในแต่ละช่วงเวลาได้ แถมยังแสดงผลข้อมูลไปยังโทรศัพท์มือถือ และนาฬิกาอัจฉริยะได้อีกต่างหาก เรียกว่าเราจะดูข้อมูลของบ้านเราได้จากที่ไหนก็ได้แล้วยังสั่งปรับอุณหภูมิล่วงหน้าก่อนที่เราจะถึงบ้านก็ยังทำได้ด้วยเช่นกัน โดยมีแอพพลิเคชั่นทั้ง iOS และ Android ให้เราได้ใช้งานกันอย่างสะดวกสบาย

หาซื้อได้ที่: http://www.amazon.com/ecobee3-Smarter-Thermostat-Remote-Generation/dp/B00ZIRV39M

อันดับ 9: Amazon Eco ลำโพงอัจฉริยะพร้อมผู้ช่วยส่วนตัว

นอกจากเจ้า Amazon Eco จะเป็นลำโพงเสียงดีแล้วมันยังโดดเด่นในเรื่องของผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยรับคำสั่งเสียงพูดจากเราแล้วไปสั่งงานอุปกรณ์ตัวอื่นๆภายในบ้านที่เป็น อุปกรณ์ Smart Home Device ได้ด้วย เช่น เราพูดสั่งให้เปิดทีวี เปิดไฟ เปิดแอร์ ปรับอุณหภูมิห้อง เจ้าลำโพงตัวนี้ก็จะจัดการให้เราได้ทันที แถมยังสามารถพูดคุยโต้ตอบคำถามที่เราถามได้ (คล้ายกับ Siri บนไอโฟน) เรียกได้ว่าเจ้า Amazon Eco ตัวนี้มันเป็นสุดยอดลำโพงส่วนตัวที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยทีเดียว

หาซื้อได้ที่: http://www.amazon.com/Amazon-SK705DI-Echo/dp/B00X4WHP5E

อันดับ 8: Chamberlain Smart Garage Door Opener เครื่องเปิดประตูบ้าน/โรงเก็บรถยนต์อัจฉริยะ

หลายคนคงจะได้ทำประตูบ้านแบบมีรีโมทกดเวลาเราจะนำรถเข้ามาจอดกันบ้างแล้ว แต่วันนี้เครื่องเปิดประตูบ้านหรือโรงเก็บรถยนต์จะเปลี่ยนไปเพราะเจ้า Chamberlain นี้มันสามารถกดเปิด-ปิดประตูจากมือถือหรือนาฬิกาอัจฉริยะได้ นอกจากนี้มันยังรองรับ HomeKit ของทาง Apple อีกด้วยดังนั้นถ้ารถยนต์ของเรารองรับระบบ CarPlay ของ Apple เจ้าประตูนี้ก็จะทำงานร่วมกับรถยนต์ของเราในการตรวจดูสถานะการจอดเพื่อสั่งปิดประตูได้เมื่อรถยนต์เข้าจอดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกว่าต่อไปนี้ไม่ต้องมาหากุญแจประตูบ้านหรือโรงจอดรถยนต์ให้วุ่นวาย เพียงแค่สั่งงานผ่านโทรศัพท์มือถือหรือสั่งผ่านรถยนต์ไปเลย อีกทั้งเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ยังเชื่อมเข้ากับ อุปกรณ์ Smart Home Hub ของ Nest จากฝั่ง Google อีกด้วย ทำให้เราสามารถควบคลุมมันผ่านระบบส่วนกลางของ Nest หรืออาจจะมีอุปกรณ์ตัวอื่นๆที่รองรับ Nest ก็จะทำงานและสั่งงานร่วมกันได้อีกด้วย

หาซื้อได้ที่: http://www.amazon.com/Chamberlain-MYQ-G0201-MyQ-Garage-Controls-Smartphone/dp/B00EAD65UW

อันดับ 7: WallyHome Water Leak Detection ระบบตรวจสอบระบบน้ำภายในบ้าน

ปัญหา น้ำรั่ว น้ำไม่ไหล น้ำมีความผิดปกติ ค่าน้ำสูงขึ้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะการใช้งานส่วนไหนเพิ่มขึ้น ปัญหาเล่านี้จะหมดไปเมื่อคุณติดตั้ง อุปกรณ์ Smart Home WallyHome ชิ้นนี้ โดยมันจะทำการตรรวจสอบระบบการจ่ายน้ำในแต่ละจุดภายในบ้านให้ อีกทั้งยังวัดอุณหภูมิของน้ำได้ด้วยว่าเป็นอย่างไร และทำการแจ้งเตือนไปยัง Email, SMS หรือแอพบนโทรศัพท์มือถือให้คุณทราบว่ามีจุดไหนบ้างที่เกิดปัญหา

หาซื้อได้ที่: http://www.amazon.com/WallyHome-Water-Leak-Detection-System/dp/B00GDI510M

อันดับ 6: Stack’s Alba Smart LED หลอดไฟอัจฉริยะ

หลอดไฟอัจฉริยะเราคงได้เห็นวางขายกันมาซักพักหนึ่งแล้ว แต่เจ้าหลอดไฟดวงนี้ก็มีฟีเจอร์ความสามารถที่หลากหลายขึ้นไปอีกนอกจากที่มันจะสามารถเปิด-ปิดไฟได้ตามที่เราสั่งจากโทรศัพท์มือถือหรือเวลาเอาไว้ มันยังสามารถปรับแสงสว่างให้เป็นแบบขาวสว่างหรือโทนสีนุ่มถนอมสายต่อได้อีกด้วย และหลอดไฟดวงนี้ยังรองรับระบบ Nest ให้สามารถสั่งงานจากระบบส่วนกลางผ่าน Nest System หรือเชื่อมคำสั่งกับ อุปกรณ์ Smart Home ของ Nest ตัวอื่นๆได้ด้วย

หาซื้อได้ที่: https://store.stacklighting.com/

อันดับ 5: Sleep Number Smart Bed เตียงนอนอัจฉริยะ

คุณคงคิดไม่ถึงว่ายุคนี้เราจะได้เห็นเตียงนอนอัจฉริยะ แต่แน่นอนว่ามันมีออกมาจำหน่ายกันจริงๆแล้วซึ่งเจ้าเตียงนอนที่ว่านี้คือ Sleep Number ได้พัฒนาให้มีความสามารถในการปรับสภาพของเตียงให้รองรับน้ำหนักตัวของแต่ละคนและคำนวนช่วงเวลานอนของผู้นอนด้วยว่านอนหลับสนิทได้ดีหรือไม่ โดยทำการจับจากตัว Sensor ที่เป็นแผ่นรองของเตียงเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลของผู้นอนว่ามีการพลิกตัวกี่ครั้งในแต่ละคืน ระบบการหายใจดีหรือไม่ จังหวะการเต้นของหัวใจขณะนอนหลับเป็นอย่างไร พร้อมกับทำรายงานออกมาให้เราดูได้ว่าสภาวะการตอนของเราเป็นอย่างไรพร้อมกับการปรับรูปแบบของเตียงตาม pattern ของข้อมูลที่วิเคราะห์ออกมาให้ดูได้ เช่นปรับระดับเตียง ปรับความยืดหยุ่นของเตียง เพื่อให้เราหลับได้ดีที่สุด

หาซื้อได้ที่: http://www.sleepnumber.com/sn/en/shop

อันดับ 4: Roost Smart Battery แบตเตอร์รี่อัจฉริยะ เตือนควันไฟและภาวะขาดออกซิเจน

แม้ว่าบ้านหรือคอนโดที่เราอยู่อาศัยจะติดตั้งเครื่องป้องกันไฟไหม้เอาไว้ ซึ่งระบบการแจ้งเตือนนั้นก็ยังเป็นแบบส่งเสียง ณ จุดที่เกิดเหตุอยู่ ซึ่งในกรณีที่เราไม่อยู่ที่ห้องหรือบ้านก็จะไม่สามารถทราบได้ แต่ตอนนี้อุปกรณ์เสริมในการส่งสัญญาณเตือนเรื่องควันไฟและคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ให้ส่งการเตือนไปยังเจ้าของห้องหรือเจ้าของบ้านได้แล้ว อุปกรณ์ที่ว่านั้นคือ Roost Smart Battery ที่ออกแบบให้การแจ้งเตือนถูกส่งไปยังโทรศัพท์มือถือเจ้าของบ้าน เพื่อนบ้าน สถานีดับเพลิง หรือตำรวจให้เข้าไปดูในที่เกิดเหตุได้ แม้จะอยู่ไกลจากจุดเกิดเหตุก็ตาม โดยมันจะทำการจับสัญญาณเตือนแล้วส่งข้อมูลออกไปหาเจ้าของบ้านซึ่งสามารถแจ้งไปได้หลายคนพร้อมกัน และสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้หยุดเตือนเนื่องจากไม่ได้เหตุเกิดขึ้นจริงซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเราอยู่ในบ้านโดยกำลังทำอาหารในครัวแล้วมีควันไฟมากจนสัญญาณดังเกิดขึ้น เราก็สั่งปิดการเตือนนั้นได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือจะตั้งค่าส่งการแจ้งเตือนไปยังเพื่อนของเราเมื่อเราออกไปนอกบ้านหรือเดินทางไปต่างประเทศ หรือจะแจ้งไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างหน่วยดับเพลิงหรือตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบแทนเราก็ได้

หาซื้อได้ที่: http://www.amazon.com/dp/B00ZWQHVP4

อันดับ 3: Parrot Flower Power Wireless Smart Plant Sensor เครื่องตรวจสุขภาพต้นไม้

เชื่อว่าหลายท่านคงจะเจอปัญหาการเลี้ยงต้นไม้ภายในบ้านหรือในคอนโดแล้วมันเกิดตายโดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่รู้ว่าเราเลี้ยงดูมันถูกต้องหรือไม่ ลืมลดน้ำ ลือใส่ปุ๋ย หรือว่ามันแตกแดดมากเกินไปกันนี้ วันนี้เรามีเจ้าเครื่องตรวจสุขภาพต้นไม้สุดเจ๋งมาให้ได้ลองกัน เจ้าเครื่องนี้มีชื่อว่า Parrot Flower Power Wireless Smart Plant Sensor ซึ่งเราแค่นำเจ้าเครื่องนี้ปักลงไปยังกระถางต้นไม้ที่เราปลูก มันก็จะคอยรายงานเราว่าสุขภาพของต้นไม้ที่เราปลูกนั้นเป็นอย่างไร พร้อมแจ้งเตือนเราว่าต้องลดน้ำตอนไหน ใส่ปุ๋ยตอนไหน เอาไปเจอแดดตอนไหน เพื่อให้มันเจริญเติบโตได้อย่างถูกต้องและที่สำคัญเราจะได้ไม่หลงลืมมันด้วย เพราะเจ้าเครื่องนี้จะส่งการแจ้งเตือนต่างๆเข้ามายังโทรศัพท์มือถือของเราโดยตรงเลย

หาซื้อได้ที่: http://www.amazon.com/gp/product/B00FOM2Y6W/

อันดับ 2: iKettle กาต้มน้ำอัจฉริยะ

แค่ฟังชื่อว่า “กาต้มน้ำอัจฉริยะ” คุณก็อมยิ้มแล้วเพราะอะไรมันจะล้ำสมัยขนาดนั้น แต่ต้องยอมรับเลยว่ากาต้มต้ำนี้มันเจ๋งจริงๆ เพราะมันไม่ได้แค่สั่งให้มันต้มน้ำร้อนผ่านแอพพลิเคชั่นได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถคำนวนเวลาเดินทางจากตำแหน่งที่เราอยู่ว่าจะถึงบ้านตอนกี่โมงแล้วจะสั่งให้มันต้มน้ำรอไว้ให้พร้อมใช้เมื่อมาถึงบ้านเลยหรือไม่ก็ทำได้ หรือแม่แต่คุณจะสั่งให้มันปลุกตอนเช้า พร้อมกับคำถามเปิดเสียงปลุกด้วยการให้มันต้มน้ำร้อนเพื่อดื่มกาแฟตอนเช้าก่อนไปทำงานเจ้า iKettle ตัวนี้มันก็ทำได้เช่นกัน เห็นไหมล่ะว่ามันเจ๋งสมเป็นกาต้มน้ำอัจฉริยะขนาดไหน

หาซื้อได้ที่: http://www.amazon.com/iKettle-Wi-Fi-Electric-Kettle-2400W/dp/B00BHXAWX4

อันดับ 1: LG HomeChat เมื่อเครื่องใช้ภายในบ้านคุยกับเราได้

มาถึงอับดับ 1 กันแล้วและแน่นอนการที่เราเลือกให้มันเป็น Smart Device สุดเจ๋งอันดับ 1 ก็เพราะว่าแนวคิดการออกแบบของเจ้า LG HomeChat นี้ไม่ธรรมดาเหมือนอุปกรณ์อัจฉริยะตัวอื่นๆที่เราได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้เลย โดยเจ้าอุปกรณ์อัจฉริยะของ LG นี้มันไม่เพียงแค่ต่อเชื่อมเข้ากับอินเตอร์เน็ตหรือมีแอพสั่งงานแค่นั้น แต่มันยังมีฟีเจอร์เด็ดนั่นก็คือมันสามารถพูดคุยรับคำสั่งของเราได้ผ่านการ Chat นั่นเอง

LG HomeChat นั้นออกแบบมาให้สามารถทำงานโดยการรับคำสั่งการสนทนาผ่านแอพพลิเคชั่น LINE โดยผู้ใช้จะต้องทำการ Add friend บัญชี LG HomeChat เข้าไปเป็นเพื่อนก่อน จากนั้นเราก็ออกคำสั่งควบคุมการทำงานส่งไปเป็นประโยคคำสั่งซึ่งทาง LG จะมีตัวอย่างประโยคให้เรารู้คร่าวๆว่าควรจะสั่งด้วยประโยคประมาณไหน จากนั้น บัญชี LG HomeChat LINE ก็จะตอบทวนคำสั่งกลับมาให้เรายืนยันอีกครั้ง และเมื่อเรายืนยันคำสั่งเสร็จข้อความการสั่งงานก็จะถูกส่งไปยังอุปกรณ์ต่างๆให้ทำงานอย่างที่เราแจ้งไปหรือเราจะสนทนาสอบถามข้อมูลก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น

• สั่งเปิดทีวี ด้วยการ chat คุยกับบัญชี LINE LG HomeChat ด้วยประโยคว่า “Open TV”
• สั่งเปิดดูดฝุ่นในห้อง ด้วยการ chat คุยกับบัญชี LINE LG HomeChat ด้วยประโยคว่า “Clean my room.”
• ถามว่าในตู้เย็นมีเบียร์เหลืออยู่กี่ขวด ด้วยประโยคภาษาอังกฤษปกติว่า “Any beer in the fridge?”
• ส่งภาพจากมือถือไปให้ บัญชี LINE LG HomeChat มันก็จะถามว่าให้เปิดภาพนี้บนทีวี หรือจะให้มัน Print ภาพนี้ออกมาให้ผ่านเครื่องพิมพ์ของ LG จากนั้นราก็แค่แจ้งความต้องการไป
• บางครั้ง LINE LG HomeChat ก็อาจจะส่งข้อความมาถามเราก็ได้ ตัวอย่างเช่น “เราทราบว่าตอนนี้คุณกำลังจะออกไปข้างนอก คุณต้องการจะเปิดอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้านหรือไม่” และเมื่อเราตอบ “Yes” ระบบต่างๆก็จะถูกปิดตัวลง ซึ่งในกรณีนี้ทาง LINE LG HomeChat จะส่งข้อความมาถามเราก่อน

ชมวิดีโอสาธิตการทำงานของ LG HomeChat

https://www.youtube.com/watch?v=tVDISNuW8D0

เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ทาง LG ได้ร่วมมือกันกับ LINE และ Nest ในการพัฒนาระบบ LG HomeChat นี้ขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นจะต้องดาวน์โหลดแอพมาลงเพื่อใช้ในการควมคุมอุปกรณ์ต่างๆให้ยุ่งยาก เพียงแค่เปิดแอพ LINE และร่วมการสนทนาออกคำสั่งคุยกับอุปกรณ์ต่างๆของทาง LG ได้เลย เรียกได้ว่าทั้งล้ำและเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นด้วย

ปัจจุบันทาง LG ได้วางจำหน่ายอุปกรณ์ LG Home ที่ว่านี้แล้วที่ประเทศเกาหลีใต้ซึ่งในประเทศไทยอาจจะต้องรอกันอีกซักหน่อยถึงจะซื้อมาใช้งานได้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: http://www.lg.com/us/discover/smartthinq/thinq