เลิกกลัว เทคโนโลยี VR ช่วยรักษาความกลัวในวงการแพทย์

เลิกกลัว เทคโนโลยี VR ช่วยรักษาความกลัวในวงการแพทย์

NOTE:
– ความกลัว เป็นอารมณ์ที่มีอยู่ 2 รูปแบบ รูปแบบหนึ่งคือความกลัวธรรมดา เป็นความกลัวที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ส่วนความกลัวอีกอย่างหนึ่งคือความกลัวที่ได้มาจากการเรียนรู้คือ มาเรียนรู้เอาจากสังคมที่ตัวเองอยู่ เพราะฉะนั้นความกลัวอันหลังนี้ แตกต่างไปตามสิ่งแวดล้อมในสังคม
– ความกลัวที่ติดตัวมาแต่ธรรมชาตินั้นนักจิตวิทยาได้ค้นคว้าจากเด็กที่เพิ่งแรกเกิดใหม่ๆ ยังไม่ได้ผ่านการเรียนรู้จากสังคมไปเลยนั้น แล้วพบว่า เด็กทารกกลัวอยู่ 2 อย่างคือ กลัวเสียงดัง และ กลัวตกจากที่สูง

ความกลัวมีอยู่ในตัวทุกคน ขึ้นอยู่กลับว่าเราจะกลัวมันมากน้อยแค่ไหนและกลัวอะไรคือสิ่งที่แตกต่างกันไป อันที่จริงความกลัวมีอยู่ 2 รูปแบบ รูปแบบหนึ่งคือความกลัวธรรมดา เป็นความกลัวที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ความกลัวอันนี้ใครๆ ทุกคนไม่ว่ามนุษย์หน้าใหนก็ต้องมี ส่วนความกลัวอีกอย่างหนึ่งคือความกลัวที่ได้มาจากการเรียนรู้คือ มาเรียนรู้เอาจากสังคมที่ตัวเองอยู่ เพราะฉะนั้นความกลัวอันหลังนี้ แตกต่างไปตามสิ่งแวดล้อมในสังคม สำหรับความกลัวที่ติดตัวมาแต่ธรรมชาตินั้นนักจิตวิทยาก็ได้พยายามค้นคว้าว่ามีอะไรบ้าง โดยดูจากเด็กๆที่เพิ่งแรกเกิดใหม่ๆ ยังไม่ได้ผ่านการเรียนรู้จากสังคมไปเลยนั้น เท่าที่ค้นพบแล้ว พบว่า เด็กทารกกลัวอยู่ 2 อย่างคือ กลัวเสียงดัง และ กลัวตกจากที่สูง

แต่ต่อจากนี้ไม่ว่าจะเป็นความกลัวแบบไหน คุณก็จะถูกบำบัดให้หายได้ แม้จะอยู่ที่บ้านก็ตาม ผ่านเทคโนโลยี VR หรือแทคโนโลยีเสมือนจริงที่กำลังนิยมอยู่ในขณะนี้

แล้วเทคโนโลยีเสมือนจริงจะเป็นทางบำบัดรักษาโรคขี้กลัวของคนได้อย่างไร

บางคนกลัวหมา บางคนกลัวแมลง แต่การมาของเทคโนโลยีเสมือนจริงนี้อาจจะทำให้คนที่เป็นโรคขี้กลัวต่างๆนั้นบรรเทาลงได้ ในทางการแพทย์ เหล่าแพทย์ทางด้านจิตวิทยาได้ใช้เทคโนโลยี Virtual Reality ในการบำบัดอาการเหล่านี้กันอย่างแพร่หลาย จนถึงกับมีบางคนสามารถกลับไปเผชิญกับสิ่งที่กลัวด้วยตัวเองได้อีกครั้งหนึ่ง

01

สำหรับคนที่กลัวแมงมุมต้องลองเกมนี้ Aracnophobia

02

หรือเกมสำหรับคนที่กลัวความสูงอย่าง The Climb ที่วงการแพทย์ใช้บำบัดอาการกลัวความสูง ซึ่งจากผลสำรวจของกลุ่มจิตแพทย์พบว่าคนทั่วๆไปนั้นเป็นโรคกลัวความสูงกันมากที่สุดเลย รองลงมาคือกลัวแมงมุม

เมื่อก่อนนั้นทางแพทย์จะทำการรักษาโดยการพูดคุยและปรับความเข้าใจเป็นหลัก แต่พอเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาทำให้การรักษานั้นเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น และผู้ป่วยเองก็มีกำลังใจที่พร้อมจะกลับไปใช้ชีวิตอย่างคนปกติมากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนแอปที่ทางแพทย์นำไปใช้นั้นก็เป็นแอปจำลองสถานการณ์ที่ทำให้ผู้ป่วยตกอยู่ในเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวนั่นเอง อย่างโรคกลัวความสูง แพทย์จะใช้แอปฯจำพวกเกมปีนเขา เกมจำลองการเดินบนสะพานแขวน หรือเกมที่ผู้เล่นต้องเดินบนที่สูงแล้วมองลงมาเบื้องล่างเป็นต้น ส่วนแอปที่บำบัดอาการกลัวแมงมุมนั้นก็จะมีแอปหนึ่งที่ชื่อว่า Arachnophobia จากค่าย IgnisVR ที่เป็นแอปเฉพาะสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการกลัวแมงมุมโดยเฉพาะ โดยการให้ผู้ป่วยสวมแว่นแล้วตัวเกมจะทำงานโดยการปล่อยแมงมุมออกมาเพื่อให้ผู้ป่วยค่อยๆทำใจและไปเผชิญหน้ากับแมงมุมนั่นเอง เป็นวิธีการหักดิบเลยก็ว่าได้ครับ

03

จริงๆ แล้วความกลัวมักจะเกิดจากสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่วัยเยาว์อย่างเช่น หลายๆคนกลัวผี เพราะตอนเด็กๆถูกสอนมาว่าอย่านอนดึกเดี๋ยวผีมาเอาไปอยู่ด้วย เป็นต้น ก็ทำให้คนที่มีอาการแบบนี้นั้นกลัวผีมาตั้งแต่ตอนนั้นทันที และอีกหลายๆสารพัดความกลัวของคน ซึ่งเทคโนโลยีตัวนี้เป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยสามารถเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวได้เพียงลำพังเท่านั้น แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับภาวะจิตใจของผู้ป่วยเองด้วยว่า พร้อมที่จะเผชิญกับมันแล้วหรือยัง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของคนที่เป็นโรคขี้กลัวคือการให้กำลังใจ เพราะหลายๆคนพอมีคนรอบข้างรู้ว่ากลัวอะไร ก็มักจะโดนแกล้งบ่อยๆจนกลายเป็นปมที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติจนเกิดเป็นความระแวง และพอเจอมากๆเข้ามันก็กลายเป็นโรคเรื้อรังที่อาจจะรักษาไม่หายในที่สุด

ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development

ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก: http://www.siamvr.com/

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top